กว่า 10 ปีที่แล้ว วงดนตรีที่ชื่อฟาเรนไฮต์คือวงดนตรีที่ถูกเรียกว่าเป็นซุูเปอร์กรุ๊ปวงนึงของวงการดนตรี แนวทางและความนิยม อยู่ในระดับที่น่าพอใจ และทุกคนก็รู้จักพวกเขาเป็นอย่างดี วันเวลาผ่านไป วงการดนตรีเจอกับพายุแห่งการเปลี่ยนผ่าน และก็พัดลงที่วง ฟาเรนไฮต์พอดี ทำให้วงดนตรีวงนี้ หายไปจากจอเรดาร์วงการดนตรี ร้างจากการออกผลงานกว่า 12 ปี แต่แล้วในที่สุดวงดนตรีวงนี้ก็กลับมา พร้อมกับเพลงใหม่ ฉันยังหายใจอยู่ เรามาพูดคุยกับพวกเค้าให้หายคิดถึงกันดีกว่า
ฉันยังหายใจอยู่ เพลงในรอบ 12 ปี
ทราย : เพลงนี้เราตัดสินจำในช่วงกลางปี 62 เพราะมันยืดเยื้อมานาน ดนตรีเพลงนี้อัดเสร็จตั้งแต่ปี 61 แต่มันยังไม่สามารถเอาออกมาทำงานได้เพราะติดหลายๆ อย่าง ทรายร้องเสร็จตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่พอเราเอามาฟังจริงๆ จังๆ อีกที มันก็ยังมีติดอีกนืดนึง ร้องแล้วก็ยังไม่ว้าว ทรายเลยอยากอัดร้องใหม่ ดนตรีโอเคดีแล้ว แค่เอามาเรียบเรียงใหม่นิดๆ หน่อยๆ ก็มาเพิ่มไลน์คอรัส ไลน์ประสานเข้าไป ซึ่งทรายคิดว่าเราตัดสินใจถูก ที่เอามาร้องใหม่ แล้วเรียบเรียงมาใหม่นิดหน่อย เพลงนี้เป็นเพลงที่โปรดิวเซอร์คือ Scott Moffatt เขาแต่งไว้ให้ทรายนานแล้ว ตั้งแต่เป็น 10 ปีที่แล้ว คือตอนที่อยู่แกรมมี่ เพลงนี้ผู้ใหญ่มองว่ามันยังไม่เหมาะ ตอนนั้น แต่ส่วนตัว ทราย ชอบเพลงนี้ เรียกว่าหลงรักเลยตั้งแต่ที่ได้ฟังเป็นเดโม่ คือทรายเข้าใจในมุมค่าย ณ วันนั้น ว่ามันคงขายไม่ได้ แต่ทรายรักเพลงนี้มาก แต่พอมาถึงตอนนี้ที่ฟาเรนไฮต์คิดว่าจะต้องมีเพลงใหม่ได้แล้ว ทรายก็เลยเอาเพลงนี้มาเปิดให้พี่ๆ ฟัง ก็คุยกันนาน แต่ทรายขอพวกพี่ๆ เลยว่าขอเพลงนี้ ทรายรู้สึกว่าเพลงนี้ออกไปสู่คนฟัง จะได้รับพลังจากพวกเรา เพราะ ความหมายก็ดี ดนตรีก็ดี เลยเป็นเพลงนี้ออกมา
ใหญ่ : พวกผมก็แล้วแต่เลยเพราะ ทรายออกเงิน (หัวเราะ) ล้อเล่นนะครับ ถ้าจะให้พวกผมสร้างเพลงขึ้นมาใหม่ ในตอนนี้เพื่อให้ตรงกับคอนเซ็ปต์ที่อยากได้จริงๆ มันก็คงจะทำให้นานออกไปอีก แต่ถ้าเรามีวัตถุดิบที่มันดีอยู่แล้ว ทราย ก็ชอบอยู่แล้วก็เอาอันนี้ดีกว่า ซึ่งเราเอามาต่อยอดได้อีก ก็มาอัดกลองสดเพิ่ม แต่ก็ยังมีกลองไฟฟ้าผสมด้วย
เอก : ส่วนเบสดีอยู่แล้ว (หัวเราะ) ก็เลยไม่ได้แก้อะไร
นาญ : ส่วนกีตาร์ก็ดีอยู่แล้ว ไม่อยากให้ไปเสียรูปแบบเขา
ทราย : เพลงนี้ตอนร้องครั้งแรก ทรายร้องตาม Scott ที่เขาไกด์มาเลย ซึ่งพอเราเอามาฟังก็เลยรู้สึกว่าร้องใหม่ทั้งเพลงจะดีกว่า คงเมโลดี้หลักไว้ แต่ถ้าท่อนไหนเปลี่ยนได้ก็จะเปลี่ยน แล้วก็เพิ่มดีไซน์การร้องเข้าไปปรับโน้ต แล้วก็เพิ่มคอรัสเสียงผู้ชายเข้ามา พอเสร็จออกมาเรารู้สึกดีใจมาก แล้วตอนนี้เราเป็นศิลปินอิสระ ที่ต้องทำทุกอย่างกันเองหมด นอกจากเพลงแล้ว เรื่องของภาพนิ่ง ภาพปก MV เสื้อผ้า ต้องทำเองหมด ทรายต้องโทรหาเพื่อนให้มาช่วย หาสปอนเซอร์ ขนของ ขนเสื้อผ้ากันเอง ไปถ่ายปก ทุกอย่างเราทำกันเอง อะไรที่ไม่เคยทำ เราก็ได้ทำหมด (ยิ้ม) มีหลายคนมาช่วย ทั้ง MV ทั้งอะไร แล้วด้วยความที่พี่ใหญ่ เขามีสัมพันธ์ที่ดีกับ Muzik Move เราก็เลยได้ทาง Space Bar Music Hub ช่วยในการส่งเพลงเข้า Platform ต่างๆ ก็เป็นงานใหม่ของเรา เราก็เลยต้องประสานงานทุกอย่าง
ใหญ่ : ทำไมมันดูอัดอั้นตันใจอะไรขนาดนั้น (หัวเราะ) คือเราก็เหมือนมานับ 0 กันใหม่
ความคาดหวังเมื่อเปรียบเทียบกับวันแรกๆ
ใหญ่ : การขายเพลงสมัยนี้มันเปลี่ยนไปไม่เหมือนสมัยก่อน การได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงที่เป็นบริษัทใหญ่ๆ มันจะรู้สึกถึงความมั่นคง มีอนาคต มีเงินมีทองมากขึ้น ซึ่งนั่นมันคือสมัย 10-20 ปีที่แล้ว ซึ่งแน่นอนมันจะตื่นเต้นกว่า เพราะสเกลมันใหญ่กว่า การจัดการต่างๆ นานา มันจะดูใหญ่กว่านี้ แล้วเวลาไปออกสื่อที่เป็นภาคบังคับ ก็พูดตรงๆ ว่าต้องใช้เงินเยอะ แม้ว่าคุณจะมีเงินเยอะทำเทปได้ แต่ก็ไม่มีทางที่จะได้โปรโมท ช่องทางคุณไม่มี บางครั้งคุณปั๊มเทปออกมาก็ต้องไปยืนขายตามปั๊มด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นการออกเพลงกับค่ายใหญ่ มันก็จะมีความมั่นคง แล้วจะมีพลังเพิ่มมากขึ้น แล้วการขายเป็นอัลบั้มมันก็จะมีฟังก์ชั่นในแต่ละเพลง เพลงเปิดหัว เพลงขายเพลงอะไร ก็จะมีระบบ การวางแผน พอมันขายได้เยอะก็รู้สึกมั่นคง แต่พอเราเปลี่ยนมาในยุคนี้ การออกเพลงไปสู่สาธารณชนมันง่ายขึ้น แต่มันก็จะไม่มั่นคง เพราะฉะนั้นพอเป็นศิลปินเก่าๆ อย่างพวกผม ก็เลยไม่ค่อยอยากจะออกผลงานอะไร นั่นคือความแตกต่าง
ฟาเรนไฮต์ และการเปลี่ยนผ่านยุค
ใหญ่ : ของวงพวกเราเจอผลกระทบในเรื่องของการเปลี่ยนผ่านยุคเทปผีซีดีเถื่อนคนก็ยุคปลายๆ คนเริ่มโหลดฟรี เขาก็เลยปรับระบบว่ามีศิลปินร้อยเบอร์ ก็ไม่ได้ออกอัลบั้มทุกเบอร์ จะมีแต่เบอร์ใหญ่ๆ ที่ได้ออก เบอร์เล็กๆ ต้องไปออก Single แต่เรามีโอกาสลุ้นแค่เพลงเดียว เมื่อก่อนเราขายอัลบั้ม 10 เพลง ไม่ดังเพลงนี้ เพลงอื่นอาจจะดัง แต่พอเราออก Single ไปแล้วไม่มา มันก็ต้องรอจังหวะ เพื่อจะออก Single ใหม่ทำให้โอกาสน้อยลง นั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราหายไป 12 ปี เราเลยต้องไปให้ความสำคัญกับการแสดงสดมากกว่า มันมีรายได้ และตอบโจทย์ชีวิตความเป็นอยู่ได้มากกว่า
เอก : เพราะฉะนั้นการทำผลงานใหม่ของเราก็จะเป็นเรื่องของความรักในดนตรีมากกว่า เรื่องที่จะหวังเงินจากเพลง คือถ้าได้มันก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ชีวิตเราก็ดำเนินต่อไป
ใหญ่ : คือพวกผม เป็นรุ่นที่โตแล้ว แต่ถ้าเป็นเด็กวัยรุ่น เขาชนแหลกได้
เอก : ผู้ใหญ่คิดเยอะ ประสบการณ์เยอะ ทำให้เราคิดเยอะ (หัวเราะ)
บทเพลงไร้กาลเวลาของ ฟาเรนไฮต์
ทราย : ทรายดีใจนะที่เวลาเราเจอนักร้องรุ่นน้อง หรือเพื่อนที่เป็นรุ่นเดียวกัน เขายังเอาเพลงของวงเราไปเล่น ยังเอาเพลงที่ทรายร้องไปร้องอยู่ แล้วเรารู้สึกว่าเพลงของฟาเรนไฮต์ก็ไม่ได้เล่นง่ายมากเกินไป ถ้าช่วยฝึกฝีมือคุณได้ ทรายยิ่งยินดี
ใหญ่ : มันยินดีอยู่แล้วเพราะว่ามันเหมือนกับว่า เพลงของวงเรายังไม่ตาย (หัวเราะ) ก็ยังเป็นที่จดจำ แล้วก็เป็นที่ชื่นชอบกับศิลปินรุ่นน้องอยู่
ทราย : อันนี้เสริมนิดนึง กับเพลงใหม่ของเรา เมื่อก่อน ฟาเรนไฮต์มีแฟนเพลงแบบนึง พอมายุคนี้กับผลงานเพลงใหม่เราก็อยากให้แฟนเพลงเราก็อยากได้แฟนเพลงอายุน้อยลงมาเหมือนกัน
ใหญ่ : อยากได้แฟนเพลงรุ่นลูกบ้าง (หัวเราะ)
ทราย : รุ่นลูกก็ได้ (หัวเราะ) คือทรายอยากเห็นแฟนเพลงที่อายุน้อยๆ เราจะได้มีภาพพจน์ที่มันดูเปลี่ยนไปและมีสีสันมากขึ้น แฟนเพลงเก่าก็ยังรัก และขอบคุณมากๆ แต่เราก็ยังอยากเชิญชวนแฟนเพลงใหม่ๆ มาเพิ่มขึ้นก็จะยิ่งดีสุดๆ ไปเลย
ข้อคิดสำหรับ นักดนตรี
นาญ : ก็สู้ๆ กันนะครับ ใครมีความฝันอยู่ก็สานต่อให้มันสำเร็จ ไม่สำเร็จก็อย่าท้อ ผมยังมีความฝันอยู่เลย
ใหญ่ : อันดับแรกการเป็นนักดนตรี เราต้องพัฒนาทักษะ ความสามารถในส่วนการเล่นของเรา รวมถึงส่วนประกอบอื่นๆ การทำงานร่วมกับคนหมู่มาก การตรงต่อเวลา ความฝันต้องมีแล้วต้องไปให้ถึง คนเราเนี่ย ถ้าเรามีใบปริญญา มันก็เหมือนกับการันตีว่า เออ เราเรียนจบ นักดนตรีก็เช่นกัน ถ้าเราสร้างงานที่เป็นเอกลักษณ์ออกมา ซึ่งสมัยนี้การนำเสนอก็ง่ายมากขึ้น ก็อยากให้รักษาตรงนี้ไว้ด้วย รักษาความฝันไว้
เอก : ถ้ารัก ถ้าชอบก็ลุย รักษาความฝันไว้ แล้วก็อย่าไปกินเหล้าเยอะ (หัวเราะ)
ทราย : ขยัน เปิดใจ อ่อนน้อม มันตรงตัวนะ การที่เราจะเป็นนักร้อง นักดนตรีที่เก่งก็ต้องขยันฝึก ขยันหาความรู้ ขยันฟังเพลง ข้อ 2 เราต้องเปิดใจ ฟังสมมติ อีกวงนึงเขาเล่นเป็นยังไง เช่นเราเป็นมือกีตาร์ร็อค อีกคนเล่นแจ๊ซ เราก็ดูว่าเราจะเอาข้อดีที่เขาเล่นมาใช้กับเราได้ยังไง การเปิดใจสำคัญมากเพราะจะทำให้เราได้เพื่อน แล้วก็ลดอีโก้ลง เราไม่ได้เก่งที่สุด เรารับข้อดีของเขามาจะเป็นเรื่องที่ดีมาก อ่อนน้อม อันนี้จะทำให้อยู่ได้ทุกสังคม ถ้าเราให้เกียรติ คนที่อายุมากกว่าเรา เท่าเรา หรืออาจจะน้อยกว่าเรา ถึงเราจะมีอายุมากกว่า หรือน้อยกว่า แต่การให้เกียรติกันจะทำให้เราได้รับการสนับสนุนมากขึ้น ถ้าเรามี 3 สิ่งนี้เชื่อว่าทุกจะสำเร็จแน่นอน
แผนการและความคาดหวัง
ใหญ่ : ก็จะเปิดหัวด้วย Single ฉันยังหายใจอยู่ แล้วก็จะมีออกมาอีกเรื่อยๆ ก็จะมีเพลงเปิดหัว เป็นเพลงนี้ ก็ใช้สูตรเดียวกับตอนทำเทปครับ มีเพลงตีหัวเข้าบ้าน ทำเรื่อยๆ ตีผิดก็ตีอีก (หัวเราะ) เพลงนี้ก็เป็นการทักทายว่าเราหายไป กลับมาเป็นยังไง แล้วตามสไตล์ก็อาจจะมีเพลงซึ้งๆ เพลงเพราะๆ เป็นเพลงฮิต
ทราย : แต่ก็อยากจะให้เพลง ฉันยังหายใจอยู่ได้ทำงานอีกสักพักนึง แล้วจะมีเพลงอื่นๆ ตามมาอีกแน่นอน เรากลับมาแล้ว ก็ลองติดตามได้ที่เพจของเรา Fahrenheit ได้เลย