หนุ่มหล่อฝีมือดีแห่ง Boxx Music คนนี้ เป็นอีกคนที่เรียกได้ว่ากำลังขึ้นมาเป็นขวัญใจอีกหนึ่งคนของวงการ ด้วยความสามารถในการแต่งเพลง เล่นดนตรีเอง ทำให้หนุ่ม คอปเตอร์ (วิศรุต เล้าเจริญชัย) มีแฟนคลับมากขึ้น นอกจากเรื่องของการทำเพลงแล้ว เขายังเป็นคนที่ชื่นชอบในเรื่องการเล่นกีตาร์เป็นอย่างมากอีกด้วย เรื่องราวของศิลปินหนุ่มคนนี้น่าสนใจทีเดียว เราเลยต้องมาคุยกับเขาเพื่อที่จะได้รู้จักตัวตนของหนุ่มคนนี้ให้มากขึ้น
“เดี๋ยวเธอกับเขาก็คืนดีกัน” ผลงานเพลงเท่ๆ จากหนุ่ม คอปเตอร์
คอปเตอร์ : เพลงนี้ผมได้ไอเดียมาจากเพื่อนของเพื่อน เขาเจอมากับตัวแล้วมาเล่าให้ผมฟัง เลยเอาไอเดียมาเขียน มันจะออกมาเป็นแบบสไตล์ Loser น้อยอกน้อยใจ จริงๆ เรื่องราวมันตลกเหมือนกันนะ เพราะเพื่อนของเพื่อนผมคนนี้ เขาจะแบบมาปรึกษาว่าเขาไม่โอเคกับความรักแล้วนะ เขาอยากจะถอยออกมาแล้ว แต่อีกหนึ่งอาทิตย์ถัดมาก็ ถ่ายรูปไปดูหนังกับแฟนเขา (หัวเราะ) ผมก็เลยเอาเรื่องนี้มาต่อยอด เลยได้ประโยค “เดี๋ยวเธอกับเขาก็คืนดีกัน” ผมก็มาบิดให้เป็นเรื่องราวแบบที่เราแต่งขึ้นมา ซึ่งเพลงนี้ผมได้ร่วมงานกับพี่เติร์ด Tilly Birds ด้วย เพราะผมก็ติดตามงานของพี่เขามาอยู่แล้ว ก็ไปตาม IG ได้พูดคุยกันส่วนตัวมาก่อน ทีนี้พอเราจะทำเพลงนี้ก็บอกที่ค่ายว่าอยากร่วมงานกับพี่เติร์ด ค่ายก็โอเค แล้วช่วงนั้นแกก็พอจะว่างๆ จากงานเพลงด้วย เลยได้ร่วมงานกัน พอตกลงผมก็ส่งเดโม่ไปให้พี่เติร์ดฟัง ซึ่งรวมๆ ตัวเพลงก็จะเป็นประมาณนี้ แต่ก็มีแก้เนื้อเพลงบ้างนิดหน่อย ก็จะมีท่อน Verse ที่แกร้อง อันนั้นแกเขียนเอง แล้วก็ช่วยปรับท่อนฮุคให้เนื้อเพลงดู Loser มากขึ้น มีมิติมากขึ้น ก็เรียกว่าไม่ได้แค่ feat แกมาช่วยเกือบหมดเลย อย่างดนตรีก็มาช่วยแนะนำว่าให้ปรับอะไรบ้าง จริงๆ ในเดโม่แกก็จะมาแค่ Verse นั่นแหละ แต่ไหนๆ ก็มาแล้ว ก็ให้ช่วยซะเลย (หัวเราะ)
บินออกจาก Safe Zone
คอปเตอร์ : เพลงนี้ผมสนุกในการทำงานมากเพราะได้บินออกจาก Safezone เดิม ออกจากกรอบเดิม การเขียนเนื้อเพลง สัมผัสแบบเดิมๆ ที่เราเคยเขียนมา มันก็เหมือนเป็นการดูลายมือของพี่เติร์ดประมาณนึงว่าเขาจะเขียนเนื้อหาแบบนี้ จะเล่าเรื่องแบบนี้ เหมือนได้รู้สิ่งใหม่ๆ ในการคิดเพลง ก็ได้คำใหม่ๆ มาเยอะ ในด้านดนตรี ผมฟังเพลงพวกสไตล์ K Pop มาเยอะ ก็จะได้ยินชุดคอร์ดนี้ แล้วผมชอบเสียงคอร์ดประมาณนี้ ไม่ได้คิดถึงทฤษฏีอะไรมาก แค่รู้สึกว่ามันเหมือนเพลง K Pop แล้วก็ดูโมเดิร์นดี จากนั้นก็ได้เมโลดี้ตามมา ในพาร์ทดนตรี กีตาร์กับไลน์เปียโนจะยากสุด โดยเฉพาะไลน์เปียโน ที่เราเขียน Midi เอาก็ต้องปรับให้ Volume ไดนามิกดูมีความเป็นคนเล่น พาร์ทกีตาร์ก็หลายเทคอยู่ มันมีอะไรให้ลองเยอะ ก็ต้องใส่นิดนึง (หัวเราะ) อีกอย่างนึงคือที่ผ่านมาเราจะเขียนเพลงจากเรื่องราวของตัวเอง ซึ่งเราเข้าใจมันอยู่แล้ว แต่เพลงนี้เราแค่ไปได้ไอเดียมา แล้วมาสร้างเรื่องราวทั้งหมดด้วยตัวเอง ซึ่งมันยากตรงที่เราจะเข้าใจมันจริงๆ ไหม โชคดีที่ได้พี่เติร์ดมาช่วยตรงนี้ แล้วแกก็พอจะมีประสบการณ์ตรงนี้มาก่อน พอมันผ่านมาก็เหมือนเราได้เปิดโลกใหม่เลย เป็นวิธีการทำงานอีกแบบ สนุกมากด้วย
MV และ ฟีดแบ๊ค
คอปเตอร์ : MV นี้เราตีความให้เป็นเรื่องของเพื่อนคนนึง ที่เป็นเพื่อนสนิท แต่ยังไม่ดีพอที่จะเป็นแฟน คือผู้กำกับเขาฟังเพลงแล้วนึกภาพไปถึงยุค 2000 ต้นๆ ก็เลยออกมาเป็นภาพแบบที่ทุกๆ คนเห็น ซึ่งเพลงนี้ผมดีใจที่ทุกคนตอบรับดีมาก ผมชอบนะที่มีคนใน Twitter บอกว่าเหมือนคอปเตอร์ออกจาก Safezone ได้แล้วทำเพลงมีความหลากหลายมากขึ้น ดีใจที่มีคนเห็นว่าเราพัฒนาขึ้น คนชอบ MV เยอะมากๆ แล้วก็ชอบแค่ตัวเพลงอย่างเดียวเยอะมากๆ เช่นกัน ก็ดีใจที่ทุกคนยังติดตาม และรอฟังเพลงของเรา
ชีวิตกีตาร์ของคอปเตอร์
คอปเตอร์ : จริงๆ ผมเริ่มเล่นกีตาร์ตั้งแต่อายุประมาณ 10 ขวบ ที่บ้านจะชอบฟังเพลงก็มีเทป มีซีดีเพลงอยู่เยอะมาก ตอนเด็กๆ ผมชอบพี่เสก โลโซมาก เป็นช่วงที่แกออกมาทำเดี่ยว ที่บ้านเล่าให้ฟังว่าผมเคยถ่ายรูปถือกีตาร์ปลอม แล้วด้านหลังเป็นซีดีพี่เสก โลโซ (หัวเราะ) พอเราโตขึ้นผมเห็นรุ่นพี่เล่นกีตาร์ แล้วด้วยความที่เราสนใจอยู่แล้วก็ขอพ่อซื้อกีตาร์ ก็ได้กีตาร์ตัวแรกมาเป็น Yamaha F-310 คลาสสิคสุดๆ (หัวเราะ) แล้วก็เลยไปเรียนกีตาร์คลาสสิคแต่ตอนนั้นผมไม่รู้อะไรเลย ก็ไปแล้วเขาบอกต้องเรียนโน้ต ไม่ได้จับกีตาร์เลย เราก็อยากตีคอร์ดแล้ว ก็เลยไปครั้งเดียวแล้วไม่ไปอีกเลย (หัวเราะ) พอเราเล่นกีตาร์โปร่งมาสักพัก เราก็เริ่มอยากเล่นกีตาร์ไฟฟ้า ซึ่งก็ไม่ใช่ใคร พี่ยอด Bodyslam (หัวเราะ) ผมชอบเพลง “ปล่อย” มาก คือพอฟังเพลงนี้แล้วก็แบบคงเล่นกีตาร์โปร่งไม่ได้แล้วล่ะ (หัวเราะ) พอคุณพ่อเห็นจริงจัง คือเรียนกลับมาซ้อมแต่กีตาร์ แกก็เลยซื้อกีตาร์ไฟฟ้าให้ ตัวแรกก็จะเป็น Epiphone SG ผมชอบทรงนี้อยู่แล้ว ก็จะได้แอมป์ตัวแรกเป็น Roland ช่วงนั้นก็ฟังเพลงแบบเด็กๆ เลยครับ Bodyslam, Potato, Big Ass ก็ไหลมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะวง Clash ชอบมากๆ มือกีตาร์เก่ง (หัวเราะ) ตอนนั้นรู้สึกผมมาชอบตอนคอนเสิร์ตสุดท้ายพอดี ก็เป็นอีกเหตุผลที่ผมชอบทรง SG ด้วยครับจากมือกีตาร์วง Clash (หัวเราะ) แต่กับวงดนตรีส่วนตัวผมจะทำวงเล่นๆ ไม่ได้ไปประกวดที่ไหน
โลกของมือกีตาร์ฮีโร่
คอปเตอร์ : จนมาถึงผมช่วงที่ผมจริงจังแบบลงประกวด Overdrive ก็คือตอนนั้นอินกับวงชื่อ Intervals ที่มีมือกีตาร์ชื่อ Aaron Marshall มากๆ อย่างเล่น อยากปรับเสียงแตกได้แบบนั้น มันเป็นร็อคที่มีทั้งความละมุนแบบแจ๊ซ อาร์แอนด์บี ก็ชอบมากๆ ตอนนั้นผมอยู่ ม.4 ก็คิดแค่ว่าเราอยากเล่นให้เหมือน Aaron Marshall เท่านั้นเอง ก็ได้เท่าที่เห็นครับ (หัวเราะ) แต่ผมก็โอเคนะ ก็เรียกว่าเป็นช่วงที่ผมชอบพวกกีตาร์ฮีโร่ อย่าง Dream Theater หรือมือกีตาร์ Jam Track Central อย่าง อ.แจ็ค ธรรมรัตน์อะไรอย่างนี้ แล้วก็จะชอบทั้งของไทย และเทศเลย อย่างทุกวันนี้ ผมก็จะเอาลูกโซโล่ในเพลง Are You Ready To Rock ของ The Sun มานั่งซ้อมๆ อยู่เลยครับ แล้วก็พวกลูก Sweep Picking ของ Dream Theater เพราะผมก็ชอบลูกสไตล์นี้ตั้งแต่ของพี่ยอดแล้ว เพลงคราม เพลงยาพิษ ก็จะชอบมากๆ แล้วก็ลูกพวก Pentatonic Blues Scale พวกนี้ก็จะเป็นลูกติดมือเราตลอด แต่ลูกที่ผมชอบที่สุดคือลูก Economy Picking จากเพลง Mr.Frontman ของ อ.แจ็ค ธรรมรัตน์ ที่ผมว่ายากมากๆ ลูกพวกนี้ก็จะฝึกตลอดครับ
โลกของนักร้องด้วย The Toys
คอปเตอร์ : จริงๆ ผมสนใจเล่นกีตาร์มาตลอดนะครับ ไม่ได้สนใจเรื่องทำเพลงร้องเพลงสักเท่าไหร่ แต่คราวนี้มันเริ่มเปลี่ยนตรงที่ผมอยากลอง Cover เพลงลง Youtube ก็เลยหาโหลดพวกโปรแกรมดนตรีต่างๆ เลยเริ่มที่สนใจจะทำเพลงแล้ว จนจุดเปลี่ยนสำคัญก็คือตอนผมอยู่ ม.5 เพื่อนผมเอาเพลงที่กำลังดังตอนนั้นมาให้ฟังคือ “หน้าหนาวที่แล้ว” ของ The Toys คือผมไม่เคยฟังพวกป็อป อาร์แอนด์บี แบบนี้มาก่อน เราก็ร็อคมาตลอด จริงๆ ตอนได้ยินเพลงนี้ผมฟังแบบผ่านๆ ด้วย แต่รู้สึกว่าทำไมเพลงมันดูละมุนจัง ดูมีชั้นเชิง ทำไมกลองไม่มีสแนร์อะไรแบบนี้ ก็เลยถามว่าเพลงของใคร เพื่อนก็บอกว่า The Toys ผมก็เริ่มสนใจเขาแล้วว่าคนนี้ไม่ธรรมดา แล้วพอเขาปล่อยเพลง ก่อนฤดูฝน ผมก็เห็นแบบเฮ้ยเขาทำเพลงเอง อัดเองหมด ผมก็เลยคิดว่าเราก็มีพวกโปรแกรมดนตรีนี่นา งั้นเราก็ลองศึกษาเลยว่ามันทำอะไรได้บ้าง ก็จุดเริ่มจาก The Toys นี่แหละครับ แล้วพอมาดูภูมิหลังเขาก็มีความคล้ายเรา เป็นกีตาร์ฮีโร่มาก่อนก็เลยยิ่งชอบกว่าเดิม ซึ่งผมว่าผมโชคดีที่ฟังเพลงแกะเพลงเยอะมาก่อน เวลาเจอพวกคอร์ดยากๆ ที่เป็น Tension ต่างๆ ผมจะทำความเข้าใจได้ แม้ผมจะไม่รู้พวกทฤษฏีก็ตาม จนถึงทุกวันนี้ ผมก็ยังทำเพลงคู่กับฝึกกีตาร์ครับ อาจจะไม่ได้เยอะเหมือนสมัยก่อนที่แบบจับเวลา นั่งซ้อมลูก Lick กับเมโทรนอม แต่ถ้าผมเห็นอะไรที่น่าสนใจ ผมจะจับกีตาร์มาฝึกเลย ก็จะทำคู่กับการทำเพลงไปด้วย ผมก็ยังเล่นกีตาร์อยู่ทุกวันครับ
ความคาดหวังของแฟนๆ กับแผนการในอนาคต
คอปเตอร์ : ตอนนี้ก็เริ่มมีคนรู้จักผลงานผมเยอะขึ้นก็กดดันนิดหน่อยตรงที่อยากจะทำเพลงให้ดีมากขึ้น อยากทำงานให้มีคุณภาพมากขึ้นอีก ยิ่งเราได้เห็นคนที่ปล่อยเพลงออกมา แล้วมีงานที่มีคุณภาพ เราก็อยากจะพัฒนามากขึ้นไปอีกเพื่อให้ได้ผลงานที่ดีที่สุด แล้วก็มีความแปลกใหม่ด้วยก็จะพัฒนาตัวเองเรื่อยๆ ตอนนี้ผมก็มีเพลงเก็บไว้เยอะก็อาจจะได้ปล่อยในปีนี้ ยังไงก็ลองฝากติดตามกันด้วยครับ แค่ทุกคนชอบเพลงผมก็รู้สึกดีมากๆ แล้ว ฝากด้วยนะครับ