ปั้น BASHER
ใครที่เป็นสายร็อคสมัยก่อนจะต้องรู้จักกับวง Basher แน่นอน เป็นวงดนตรีที่มีเพลงที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับพวกเขา นั่นคือเพลง “เสียดายของ” เรียกได้ว่าใครที่ได้ฟังเพลงนี้ในยุคนั้นจะต้องร้องตามกันได้อย่างแน่นอน ครั้งนี้นักร้องนำอย่าง ปั้น Basher ได้ออกมาฉายเดี่ยวในสังกัดค่ายเพลงจีนี่เรคคอร์ด เพื่อสร้างสรรค์ผลงานเพลงที่มีชื่อว่า “แกล้ง” โดยได้โปรดิวเซอร์มือดีอย่างพี่โจ (เหมือนเพชร อำมะระ) มาช่วยดูเนื้อร้อง อีกทั้ง MV เพลงนี้ยังหักมุมเหมือนแกล้งคนฟังอีกด้วย
หายหน้าไปนานทำอะไรมาบ้างครับ
หายไปไม่นานนะครับ (หัวเราะ) แต่วงหายไปนาน แต่ก็มาออกเดี่ยวตอนนั้นอยู่ Mono มาออกเดี่ยวได้ 2 ซิงเกิ้ล จากนั้นก็หมดสัญญา ตอนแรกเลยจริงๆ แล้วคือตั้งใจจะทำเอง ก็เลยคุยกันกับพี่ป้อม (สุรชัย พรพิมานแมน) แล้วก็เพื่อนๆ วง Basher ตอนนั้นก็ทำเพลงมาได้หลายซิงเกิ้ลเหมือนกันนะครับ ทำเหมือนมิกซ์เก็บไว้ครับ ก็เหมือนมีโอกาสได้มาเจอกับกับพี่นิค (วิเชียร ฤกษ์ไพศาล) พี่นิคก็เรียกมาทำเพลงครับ ก็เลยเปิดเพลงให้พี่นิคฟัง พี่นิคก็ลองมาคุย ตอนนั้นทางพี่นิคก็บอกว่าเดี๋ยวเรียกพี่โจ (เหมือนเพชร อำมะระ) มา พี่นิคก็โทรเรียกพี่โจมา พี่โจเขามาเปิดค่าย Nevermind ให้ลองไปอยู่กับโจก่อน ก็เลยเป็นที่มาที่ได้เข้ามาที่นี่ครับ
แล้วตอนที่อยู่ใน Nevermind ได้ทำเพลงมั้ยครับ
ก็ได้ออก 1 ซิงเกิ้ลครับ “พูดผ่านกำแพง” ตอนนั้นก็คาบเกี่ยวอีก พูดผ่านกำแพงก็เป็นซิงเกิ้ลที่เป็นทีมของปั้นด้วยครับ พี่ป้อมเป็นคนเขียน ก็คือตอนนั้นเป็นเพลงที่ได้เสนอพี่นิคแต่แรกแล้ว พี่นิคก็ให้ลองมาอยู่กับพี่โจดู เป็นช่วงคาบเกี่ยวที่ทาง Nevermind ที่พี่โจมีหน้าที่ไปทำอย่างอื่น Nevermind เลยไม่มีคนดู ก็เลยคิดว่าสงสัยจะไม่ได้ทำ
ตอนนั้นรู้สึกเศร้ามั้ยครับ
ชินมากกว่าครับ ก็คิดว่าไม่เป็นไรค่อยว่ากันใหม่ ก็จนวันนึงทางจีนี่เรคคอร์ดเขาโทรมาเรียก ก็เลยได้มีโอกาสเข้าบ้านจีนี่เรคคอร์อีกครั้งนึงครับ เป็นที่มาของเพลงนี้ครับ “แกล้ง” เพลงแกล้งจริงๆ แล้วจะเป็นซิงเกิ้ลที่ 2 วันนั้นนั่งคุยว่าอยากได้อะไรที่มันเปลี่ยนจาก Basher ให้รู้สึกว่าใหม่สำหรับคำว่า ปั้น Basher ก็เลยนั่งคุยกับพี่โจ พี่โจก็เลยลองเราเล่าชีวิตให้ฟัง จริงๆ เพลงเราก็ชอบเล่าชีวิต ตอนสมัยเด็กๆ ผมชอบอย่างนั้นอย่างนี้ มันก็ได้คอนเซ็ปต์มา แล้วก็ได้พี่โต๋ (ธีระปริญญ์ รัตนบุตร) มาร้องอเรนจ์ มาโปรดิวเซอร์เพลง ตอนที่เป็นเดโม่ เราก็พยายามออกแสดงความคิดเห็น พี่โต๋ก็โอเคนะครับ ซึ่งให้น้ำหนักเราในการตัดสินใจ
พี่ปั้นรู้จักกับพี่โต๋มาก่อนมั้ยครับ
ไม่รู้จักครับ รู้จักวันที่พึ่งเข้ามา Nevermind พึ่งรู้จักแล้วรู้สึกว่าคุยสนุกดี พี่โต๋เขาจะเป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ แต่พอเริ่มคุยกันเขาก็เริ่มซีเรียสเรื่องงานเหมือนกัน แล้วก็ยิ่งกินข้าวกับเขาก็เลยเริ่มรู้จักกัน แต่ว่าการทำงานก็ยังซีเรียสเหมือนเดิมครับ
พูดถึงเพลงนี้ การทำงานเพลงนี้เป็นยังไงบ้างครับ
ก็อย่างที่เล่าไปจริงๆ มันก็เป็นการคาบเกี่ยวของ Nevermind เพราะว่าเริ่มเป็นโครงก็เริ่มไปทำเดโม่กัน ที่หมู่บ้านนักดนตรีของพี่โต๋ ด้วยความที่ผมเห็นว่าตัวเพลงมันเปลี่ยนแล้วใครที่ฟัง Basher จริงๆ มันจะรู้สึกว่าปั้น Basher เปลี่ยนจริงๆ ผมก็เลยอยากให้ภาพมันเปลี่ยนด้วย ก็เลยมีความคิดว่าเดี๋ยวผมเล่นกีตาร์เองดีกว่า เล่นกีตาร์ที่มันรู้สึกว่าไม่ยากเกินไป ร้องไปด้วยเล่นไปด้วย ก็เลยเป็นที่มาที่อยากจะเปลี่ยน อยากจับกีตาร์อยากจับเครื่องดนตรีบ้าง หลายคนชอบบอกว่า เล่นดนตรีเป็นหรือเปล่า อยู่มานานแล้วก็เลยจับกีตาร์เล่นเองครับพูดถึง MV เพลงนี้หน่อยครับ
MV ก็มีเรื่องเนื้อหาที่หักมุม จริงๆ เคยร่วมงานกับพี่เสือ (ยรรยง คุรุอังกูร) พี่เสือเป็นผู้กำกับ MV เคยร่วมงานกับนานมาแล้วครับ แต่ว่าพอคราวนี้ ทางพี่เสือเหมือนมาขายพ็อตเรื่อง แล้วเรารู้สึกว่าพ็อตเรื่องมันแกล้งคนดู คนที่ดูจริงๆ จะถูกแกล้งด้วย เรารู้สึกมันตรงกับชื่อเพลงแล้วพี่เสือก็มาทำ MV ที่จริงจังเพลงแรก แล้วผมก็พึ่งเข้ามาบ้านจีนี่เรคคอร์ดเพลงแรก ผมก็เลยรู้สึกว่ามันเจ๋งดี ก็เลยได้พี่เสือนี่ละครับ
มีติดปัญหาอะไรบ้างมั้ยครับตอนถ่าย MV
ตอนถ่าย MV มันแน่นอนอยู่แล้ว เรื่องเวลาเรื่องทุกอย่างแต่ว่ามันก็ผ่านพ้นไปด้วยดีครับ หลายคัตหน่อย เพราะว่าเราต้องตัดให้แกล้งคนดู
อย่างเรื่องห้องอัดที่พี่ปั้นบอกว่าจะต้องดูเปลี่ยนจาก Basherไปอย่างการร้องต้องมีการเปลี่ยนมั้ยครับ
เปลี่ยนครับ นิดหน่อย ด้วยความที่ Basher มันจะเป็นเมโลดี้ที่เราอยู่กันสามคนจนเรารู้ รู้สไตล์แล้วก็รู้ความต้องการ ดนตรีมันไม่มีอะไรผิดเลยนะครับ ผมจะร้องอย่างนี้ อยู่ที่ชอบไม่ชอบแค่นั้นเอง เขาเรียกว่ารสนิยมของแต่ละคน ซึ่งเราก็มานั่งคุยกันว่า อยากให้มันเป็นยังไงบ้าง ก็คุยกับพี่โต๋ พี่โต๋เขาเลยรู้สึกว่าอยากให้มันมีความสากนิดๆ แต่ยังคงอารมณ์ไม่ให้เกินคำว่าแกล้ง มีความสากให้มีความรู้สึกไปถึงเพลงเสียดายของ บางโน้ตที่ผมรู้สึกว่าเมื่อก่อนผมจะไม่ค่อยชิน คนสมัยนี้จะฟังเข้าใจมั้ย แต่ว่าพอมันลงกับเพลงรู้สึกว่ามันก็ลงตัวเหมือนกัน
พอเห็นเนื้อเพลงครั้งแรกรู้สึกยังไงครับ
เห็นเนื้อเพลงครั้งแรกก็คือตอนนั้นนั่งอยู่กับพี่โจเลยครับ จริงๆ มันได้มาแค่ท่อนเวิร์สฮุคก่อน แต่ว่าเวิร์สสองมันยังไม่มา ก็เลยฟังเหมือนที่ตรงกับที่เราเล่าเมื่อกี้เลย ก็เลยได้มา ก็โอเคนะครับแต่ว่าไปขัดเกลานิดหน่อย ตอนนั้นเรารู้สึกโอเค เพราะนั่งคุยกัน เล่าชีวิตกันมันออกมาตอนนั้นเลย
แล้วเพลงปล่อยออกมาเป็นยังไงบ้างครับ
ปล่อยมาสองสัปดาห์ก็โอเคเลยครับ ก็คือแฟนเพลงเก่าๆ ของ Basher ให้การต้อนรับครับ แล้วก็เหมือนจะได้ฐานแฟนเพลงใหม่ๆ ด้วยที่พึ่งจะมาตาม ปั้น Basher ที่พึ่งมาฟัง จริงๆ แล้วผมก็ไม่อยากจะกำหนดกฎเกณฑ์ว่าเป็นแนวเพลงอะไร เพราะเราออกเดี่ยวแล้ว เราอยากทำอะไร อยากใส่อะไรให้รู้สึกว่าเป็นตัวเรา ต่อจากนี้จะได้ยินซิงเกิ้ลที่ 2 ก็จะมีคนชอบถามว่าอยากฟังเสียดายของ เมื่อไหร่จะมี แต่งเสร็จแล้วผมเขียนเมโลดี้มา คนเขียนเนื้อเพลงเสียดายของคือพี่ป้อม ก็บอกพี่ป้อมว่า พี่ป้อมเอาเหมือนเสียดายของเลยนะ ลองดูว่าจะกลับไปได้ไหม แต่มันเป็นเสียดายของในยุคนี้ ตอนนี้มันเหมือน Around the world มันมีหลายทีมงาน จริงๆ ก็เป็นเพื่อนกันหมดครับ
ปล่อยเพลงนี้คาดหวังอะไรบ้างครับ
ความคาดหวังจริงๆ ผมแค่กลับมาร้องเพลงนี้โคตรรดีใจเลยครับ จนได้มาอยู่ที่บ้านที่มีเพื่อน พี่น้องที่เคยอยู่ Music bug ทั้งนั้นเลย มันสนุกดี อย่างเมื่อกี้เจอเมธี เมธีบอกเอามั้ยแต่งให้สักเพลง ผมก็เอาสิเอาเลย มันอยากให้เป็นอะไรก็ได้ สนุกๆ กัน ก็มีความสุขดีครับ เพลงนี้ก็อยากให้เห็นว่าเรายังชอบร้องเพลงอยู่ กลับมาแล้ว แล้วก็ไม่อยากให้รู้สึกว่ามันใหม่ว่ะ
เพราะเด็กรุ่นใหม่อาจไม่ทัน Basher ด้วยหรือเปล่าครับ
ใช่ครับ เมื่อวันเสาร์ไปเล่นที่นครปฐม ขึ้นเพลงเก่าๆ คือเด็กงงเลยนะครับ แต่มีโซนที่เกิดมารุ่นๆ เรา เขาไปตลาดนัดรถไฟ โซนหลังๆ ที่เขาขายเสื้อผ้า เฮ้วๆ กัน (หัวเราะ) ก็เป็นยุคที่สนุกดีครับ แต่ว่าถ้าเป็นเพลงในยุคนี้ อย่างเราไปเล่นเพลงแกล้ง เด็กๆ ร้องได้ ส่วนข้างหลังก็จะเงียบๆ (หัวเราะ) สลับกันครับ
ถ้าเด็กรุ่นใหม่ถามว่า Basher คืออะไรละครับ
Basher จริงๆ มันคือนิยามมาจากคำว่า Bachelor สมัยนั้นเราอยากให้มันรู้สึกใหม่ เป็นเด็กหนุ่มคนนึงที่อยากเล่นดนตรี เรียกไปเรียกมากลายเป็น Basher ซึ่งคอนเซ็ปต์ผมก็ยังเหมือนเดิมก็คือคำว่า ปั้น Basher มันมาจากคำว่า Basher ที่อยากทำอะไรใหม่ๆ ทำอะไรที่เราชอบแล้วเรารู้สึกว่ามีความสุข ลงตัว ซึ่งนั่งคุยกับพี่ป้อมมานานมาก จริงๆ อยากจะใช้ชื่อจริงเหมือนกัน แต่เราคิดว่าคำว่า Basher มันมันส์กว่า มันสนุกกว่า มันให้คนคิดถึงด้วย เพราะปกติออกมาเดินไม่มีใครเรียกผมพี่ปั้น เรียกพี่ Basher ตลอด
ปกติเล่นกีตาร์อย่างเดียวมั้ยครับ
ก็เล่นกีตาร์ แล้วก็ร้องร้องครับ จริงๆ แล้วคือเล่นได้บ้าง งูๆ ปลาๆ แต่ว่าที่มันจะเป็นตัวเป็นตนมากสุดก็คือกีตาร์
กีตาร์ที่ใช้ประจำยี่ห้ออะไรครับ
ยี่ห้อ Grill ครับ ที่อยู่ใน MV ก็คือ Grill ครับ อันนั้นยืมเพื่อนมา แต่จริงๆ ผมมีอีกตัวนึง รู้สึกว่าในฉากมันมีความดาร์คอยู่ ผมก็เลยอยากได้สีแบบนั้นครับก็เลยยืมเพื่อนมา (Gmag : แล้วของพี่ปั้นสีอะไรครับ) ก็สีธรรมดาครับไม่ได้เป็นสีแบบดาร์คๆ แบบนั้น
ปกติมีใครเป็นไอดอลบ้างมั้ยครับ
โอ้ยเยอะเลยครับ ไอดอลจริงๆ ผมชอบพี่ป๊อด โมเดิร์นด็อก ผมรู้สึกว่าเขามีพลังจังเลย เข้าใหม่ๆ ก็ชอบพี่เอก (ธเนศ วรากุลนุเคราะห์) บอสเก่าผม รู้สึกว่าพี่เอกเท่ห์ คนบ้าอะไรโคตรเท่ห์เลย แล้วก็พี่ตูน Bodyslam มีความเป็นไอดอลในการใช้ชีวิต ผมรู้สึกว่าพี่เขาเจ๋ง บางอย่างเราคิดว่าใครมันจะไปทำได้ แต่เขาก็ทำให้เห็น แล้วก็การใช้ชีวิต ความเรียบง่าย ความรักพี่รักน้อง ยิ่งตัวเพลงคนก็ชอบ ก็มีหลักๆประมาณนี้ครับ ที่รู้สึกว่าเป็นไอดอลนะครับ
พี่ปั้นกับพี่ตูนน่าจะรู้จักกันมานานนะครับ
นานครับ รู้จักกันมานานมาก ตั้งแต่อยู่ Music bug ครับ
พี่ปั้นเคยมองว่าพี่ตูนจะมาถึงตรงนี้ได้มั้ยครับ
ตอนนั้นผมก็คิดว่าน่าจะมาได้แหละครับ แต่ผมไม่คิดว่ามันจะไกลแบบนี้ ผมได้ไปวิ่งพร้อมพี่ๆ บิ๊กแอส ก็ไปมาได้สัก 12-13 โล มันสนุกมาก สนุกดี ผมรู้สึกเจ๋งจังเลย แล้วจบดอกเตอร์ 2 ใบ 3 ใบ คือเป็นคนที่ใช้ชีวิตแบบไม่รู้จะใช้คำว่าอะไร เจ๋งมากครับ
ร่วมงานกับพี่โจแล้ว พูดถึงพี่โจหน่อยครับ
พี่โจก็น่ารักดีครับ แล้วก็ไปเล่นคอนเสิร์ตเมื่อก่อนเจอบ่อยมาก แต่ว่าพอมาได้ร่วมงานกันก็ได้ยิ่งคุยกันแบบตรงๆ ก็นั่งเล่าชอบไม่ชอบก็บอกกันเลย พี่โจเขาค่อนข้างให้อิสระ พี่โต๋เหมือนกันครับสองคนเขาจะชอบแบบอันนี้ดีมั้ย พยายามบอกตลอด พยายามถามว่าเราต้องการอะไรมั้ย ค่อนข้างน่ารักครับ
ฝากผลงานกับช่องทางการติดต่อหน่อยครับ
“แกล้ง” ซิงเกิ้ลแรกนะครับ ก็บ้านใหม่จีนี่เรคคอร์ด ถ้าชอบก็กดดาวน์โหลด *1236999 แล้วโทรออกครับ แล้วก็ช่องทางการติดต่อก็ Facebook , IG ชื่อ PUNBASHER ครับ แล้วก็ซิงเกิ้ลต่อๆ ไปนี้จะได้ยินเขาเรียกว่า กระบี่พิฆาตพี่ป้อม เขามีหลายเพลงที่เขียนแล้วขนลุกเลยครับ เขาจะชอบมีเซ้นท์เวลาเขียนเพลงชอบขนลุก ชอบไลน์มาบอกเพลงนี้ขนลุกเลย เพราะช่วงนี้เขามือขึ้น ปีนี้มีอีกเพลงนึงครับ ไม่นาน อันนี้ก็รอคัดเลือกอยู่ มีกลิ่นของเสียดายของแน่นอนครับ ให้แฟนๆ ได้ฟังกันครับ ขอบคุณครับ