วงดนตรีที่มีแนวทางเป็นของตัวเองอีกหนึ่งวง ความสามารถในการแต่งเพลง เล่นดนตรีที่ไม่เป็นรองใคร ในวงการ วันนี้พวกเขามาพร้อมกับ เฉดสีใหม่ๆ จริงอยู่ว่าหลายๆ คนอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับพวกเขามากนัก ในบทสัมภาษณ์ครั้งนี้เราจะมาทำความรู้จักวงดนตรีดีๆ วงนี้ให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นไปอีก กับแนวคิด และวิธีการทำงาน นี่คือวงดนตรี ที่มีสไตล์ Blueshade
รักฉันเพราะอะไร
Blue Shade : นี่เป็น Single แรกจากอัลบั้มที่ 2 ของเรา เป็นเพลงอกหักในสไตล์พวกเรา เนื้อหาเกี่ยวกับแฟนเราเปลี่ยนแปลงไป หมดรักเฉยๆ แต่เราก็รู้สึกว่าเราก็รักเหมือนเดิม งั้นที่ผ่านมา รักฉันเพราะอะไร เราก็ตั้งคำถามแบบนี้ ซึ่งก่อนที่เราจะทำเพลงนี้ จะมี 2 เพลงคือ ถ้าเรายังรักกัน กับ เวลาที่เราต้องจาก เรากะว่าจะใช้ในอัลบั้มที่ 2 แต่พอระยะเวลา มันห่างออกมา มีการปรับเปลี่ยนเยอะ เลยต้องตัด 2 เพลงนั้นออกไป แล้วถือว่าเพลงนี้มาทำใหม่เลย ดนตรีเพลงนี้กีตาร์ก็หนักขึ้น ร็อคขึ้นอีกสักหน่อย จากอัลบั้มที่แล้วเพลงชิล เยอะ ทำให้เล่นให้สนุกยาก ก็เลยเพิ่มความร็อค ความเข้มข้นอีกนิด จะได้โชว์ให้หนักแน่นขึ้น ซึ่งเพลงนี้ถือว่าเป็นก้าวใหม่ของเราเลยนะ เพราะความกดดันมันไปจบที่ 2 เพลงก่อนหน้านั้นไปแล้ว ทั้งความเฟล ความกดดัน มันก็เลยมีน้อยลง ถึงอย่างนั้นก็ค่อนข้าง กดดันนิดหน่อยตอนเขียนเพลงนี้ แต่ไม่หนักหนาเท่าไร เพราะ 2 เพลงนั้น เราค่อนข้างคาดหวังเลย พอไม่ได้ก็แย่หน่อย ซึ่งเราก็เผื่อใจในระดับนึงแล้ว เอาตรงๆ เลยนะ มันมีเรื่องหลายอย่าง ที่ผ่านเข้ามาก่อนมีเพลงนี้ ถ้าเราไม่มีเพลงฮิตมาเติม ก็อีกไม่นาน คงต้องแยกย้ายกัน ซึ่งเพลงนี้จะเป็นขั้นแรกสู่อัลบั้มใหม่ ถ้าคนชอบเพลงนี้เราจะสามารถ ต่อยอดไปในเพลงต่อไปได้ง่ายขึ้น
เพลง Ed Ok
Blue Shade : ชื่อเพลง ก็อย่างที่เข้าใจเลยครับ เราตั้งชื่อในเดโม่แบบนั้นแหล่ะ (หัวเราะ) เพราะเนื้อหาเพลงจะพูดเกี่ยวกับ การที่ผู้หญิง คุยกับเราเหมือนจะชอบเรา แต่ดันไปคบคนอื่น ซึ่งอันนี้ เราตั้งชื่อแบบนี้ เพราะถ้าเราตั้งแบบนี้ เวลาฟังเดโม่ ก็จะจำได้ง่าย แล้วทีนี้พี่ ปุ๊ย ดิสิต ตันสกุล ที่เป็นโปรดิวเซอร์ เห็นชื่อเพลงก็รู้สึกว่ามันจะพลิกอะไรได้ ก็เลยมาคุยกัน กลายเป็น Ed-Ok ตอนแรกที่จะปล่อยก็กลัวนะ กลัวแฟนจะมองว่า ทำไมหยาบกันจัง (หัวเราะ) แต่ว่าด้วยความที่เราไม่ได้ทำเพลงจะด่าใคร แบบซีเรียส เราตั้งชื่อเดโม่ แบบนั้นเฉยๆ เพียงแต่ว่าเพลงนี้เราอาจจะเปลี่ยนน้อย หน่อย เป็น Ed-Ok ก็ซอฟต์แล้วนะ (หัวเราะ)
สไตล์ดนตรี ที่มีจังหวะมากขึ้น และเป็นเพลงแรกที่มีท่อนแร๊พ หนักๆ แบบนี้
Blue Shade : เพลงนี้ต้องบอกว่าเราเปลี่ยนวิธีการทำงานไปเยอะมาก เพลงที่ได้ฟังก็คือ เหลือจากเดโม่แค่ 30 เปอร์เซนต์ เราทำใหม่เยอะ แล้วได้พี่ปุ๊ย มาช่วยโปรดิวเซอร์ให้ ซึ่งปกติเราจะทำกันเองมาโดยตลอด มันก็จะเหมือนเดิม เพราะเราทำกันเอง มองกันเอง ทำให้มองข้ามจุดบางจุดไปซึ่ง พี่ปุ๊ยก็มา ช่วยเราได้เยอะ อย่างแรกที่เปลี่ยนคือเพลงนี้เป็นเพลงแรก ของวงเราที่มันมีกรู๊ฟ ที่โยนขนาดนี้ แล้วยังมีแร๊พ อันนี้ใหม่สุด เพราะ เซฟ ถ้าพูดตรงๆ ก็คือ แต่งแร๊พไม่เป็น ไม่เคยแต่งเลย ปกติก็แต่งเฉพาะเพลงที่มันเป็นท่อนร้องๆ หน่อย มันก็ทำให้รู้สึกว่าขาดอะไรไป แต่เน็ต เขาจะเป็นคนที่แร๊พได้ เวลาโชว์ เขาจะเป็นคนที่ร้องแร๊พ เพลงคนอื่นตลอด ก็เลยคิดกันว่า ทำไมในเมื่อเราทำได้ เราไม่ใส่ ท่อนแร๊พลงไปซะเลย จังหวะเซฟ กับ เน็ต เขา เฮิร์ททั้งคู่เลย พอดี เลยแต่งเพลงด้วยกันตลอด (หัวเราะ) ก็เป็นท่อนแร๊พอย่างที่เห็น ซึ่งเราก็กังวลว่าจะทำให้ ฟังแล้วมันจะใช่ไหม มันจะดูตลกไหม เดี๋ยวจะกลายเป็นแร๊พเอกไป (หัวเราะ) ส่วนเรื่องการเปลี่ยนสไตล์ เราไม่กังวลเท่าไร เพราะอยากให้โตขึ้นจากอัลบั้มที่แล้วอยู่แล้ว
พูดถึงเอ็มวีกันบ้างครับ เซฟ มีการเต้นด้วย
Blue Shade : ต้องบอกว่าตั้งแต่เกิด เซฟ ก็ไม่เคยเต้นเลย แล้วพอต้องมาเต้นก็แบบ กูจะไหวไหมวะ แต่คราวนี้ตอนถ่ายพี่ที่เป็นครูสอนเต้น เขามาสอนที่กอง แล้วก็ถ่ายเดี๋ยวนั้นเลย มันไม่ต้องจำท่านาน ถ่ายทีละฉาก ซึ่งต้องขอบคุณทุกคน ที่อดทนเซฟ เพราะใช้เวลาเยอะมากจริงๆ แต่เวลาโชว์ คงไม่ไหว เพลงนี้เป็นเพลงที่มีวิธีทำเพลงที่ใหม่ที่สุด ความยากก็อยู่ที่การแสดงด้วย ซึ่งก็หนักพอสมควร เวลาไปโชว์ก็คงต้องทำงานหนักขึ้น
เห็นคอมเมนต์ ใน Youtube แซวกันว่า เซฟ เหมือน พจน์ อานนท์
Blue Shade : ก็ตลกดี ครับ สงสารพี่เขา (หัวเราะ) ก็เหมือนจริงๆ ไม่รู้จะพูดยังไง (หัวเราะ) คือพวกเราก็เปลี่ยน ลุ๊คด้วย ปัญหาคือสมัยก่อน เราใส่แต่สูท ซึ่งไม่ค่อยอำนวยเท่าไร แล้วเราก็อยู่กับสูทมานานมาก ก็เลยอยากออกจากตรงนั้นบ้าง แล้วเราไม่เคยทำอะไรแบบนั้นเลย ก็เลยใส่ชุดสบายๆ
มองไปถึงอัลบั้มหรือยัง
Blue Shade : ก็อีกสัก 2-3 Single แล้วจะปล่อยอัลบั้มครับ เป็นนโยบายค่ายอยู่แล้ว ตอนนี้เราเปลี่ยนวิธีจากปล่อยอัลบั้มก่อน แล้ว ค่อย ปล่อย Single ก็กลับกันเป็น Single ก่อน แล้วค่อยปล่อยอัลบั้ม
คาดหวังยังไงกับเพลงนี้
Blue Shade : หลักๆ เลยเพลงนี้ไม่เหมือน Blue Shade เดิมๆ แบบที่ทุกคนเคยฟัง อยากให้ทุกคนเห็นอีกด้านนึงของพวกเรา ที่สนุกขึ้น มีความกวน แล้วเปิดใจรับอีกด้านนึงของพวกเรา และเพลงนี้เวลาเล่นสด จะทำให้เราได้เพลงเร็วมากยิ่งขึ้น คือวงเราก็เป้นวงที่เล่นสนุกได้ระดับนึงเลยนะ ไม่ใช่แค่มาดูนั่ง ชิลล์อย่างเดียว ซึ่งเพลงนี้ก็จะส่งสารถึงคนดูแบบนั้นครับ
รู้จัก Blue Shade ให้มากขึ้น
ตั้งแต่ทำเพลงมาเพลงไหนที่ทำนานที่สุด
Blue Shade : อัลบั้มนี้จะมีเพลงอาถรรพ์ที่อยู่กับเรามา 5 ปี ซึ่งเวลาจะทำไม่ได้ปล่อยสักที แต่คราวนี้ได้แล้ว ยังไม่บอกชื่อเพลง ต้องรอฟัง (หัวเราะ) ส่วนงานอัดไม่มีเพลงไหนนาน
ทำเพลงเร็วที่สุด
Blue Shade : อยากเจอ ครับ เข้าไปอะเรนจ์ 2 ชั่วโมง อัดเสร็จเลย แล้วเป็นมาสเตอร์แบบที่ได้ฟัง
เพลงที่อยากเล่นแต่ไม่ค่อยได้เล่น
Blue Shade : ร้อนนี้มีลุ้น เพลงนี้แหล่ะไม่ค่อยได้เล่น ต้องไปทะเลอย่างเดียว แต่บางทีก็มีเพลง เก็บ ที่เป็นเพลงพิเศษ ซึ่งถ้าให้เล่นตอนนี้ก็ หลุดแน่นอน แล้วก็ เวลาที่เราต้องจากเพราะมันเป็นเพลงที่อยู่ในช่องว่างของอัลบั้มแรก และ อัลบั้มที่ 2 เป็นเพลงที่ไม่ได้อยู่ในอัลบั้มไหนเลย เป็นเพลงที่ เซฟ เขียนให้คุณยายที่เสียไป และเพลงนี้เป็นเพลงที่เซฟ อินมากที่สุด ก็เป็นอีกเพลงที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้เล่น
เพลงที่เซฟร้องผิดบ่อยสุด
Blue Shade : ทุกเพลง (หัวเราะ) คือร้องสลับกันมั่ว มีงานนึง ร้องเพลง ความรักที่ดีที่สุดผิด เซฟร้องผิด แต่แฟนเพลง ร้องถูก (หัวเราะ) อย่างอาย ฉิบหายมากมาย (หัวเราะ)
คิดว่าเพลงไหน ของวง ที่ น่าจะตรงกับบุคลิกของวงมากที่สุด
Blue Shade : ก็ร้อนนี้มีลุ้นนี่แหล่ะครับ วงเราไม่ใช่คนดีเท่าไร (หัวเราะ) แต่ถ้าเป็นค้านดนตรี ก็ต้องเป็น ข้อห้ามของความเป็นเพื่อน ที่เป็นดนตรีในแบบของเรามากที่สุด
ฝาก
Blue Shade : ED-Ok คือ เพลงล่าสุดของเรา ใครอยากรู้ว่าคืออะไร ดูใน คอนเมนต์ Youtube ได้เลย เพลงนี้คือสิ่งที่เราไม่เคยทำ จะต่างจาก Blue Shade แบบเดิมๆ ยังไงลองฟังกันดูครับ ฝากติดตามพวกเราได้ที่ Fan Page SRP Label และทุกช่องทาง Social และเพจของวงเราได้ครับ