aron นักร้อง/นักแต่งเพลงวัย 22 ปี ที่นำเสนอเสน่ห์ร่วมสมัยของท่วงทำนองเพลงรักและจังหวะอันซับซ้อนของดนตรียุคแจ๊สกลางศตวรรษ โดยนำมาทำใหม่ในสไตล์ของเขาเอง ที่เข้าถึงได้ง่าย ฟังได้ง่ายมากขึ้น สมกับแนวดนตรีของเขาที่เรียกว่า Cozy Pop ล่าสุด aron มีผู้ติดตามบน Instagram และ TikTok เป็นจำนวนมาก พร้อมยอดเข้าชมหลายล้านวิวจากคลิปการร้องเพลงที่เขาแต่งเอง
มารู้จัก aron ให้มากขึ้นกับบทสัมภาษณ์พิเศษชิ้นนี้ครับ
Q : ย้อนกลับไปวัยเด็กของ aron กับความสนใจด้านดนตรี เริ่มต้นขึ้นได้ยังไง
A : เอิ่ม ไหนขอผมลองคิดดูหน่อยนะครับ ผมว่าจริง ๆ แล้วผมก็พูดถึงเรื่อง “Guitar Hero” บ่อยนะครับ แต่ผมว่ามันก็มีสิ่งอื่นๆ เหมือนกันที่ทำให้ผมได้เริ่ม (ทำดนตรี) ขอผมคิดหน่อยนะ ผมว่าผมโตมากับการที่คุณพ่อและคุณแม่ของผมเปิดวีดีโอของผู้คนที่เล่นคอนเสิร์ตให้ผมดูครับ และผมก็ได้เห็นวิดีโอของ Prince ที่เล่นกีตาร์อย่างบ้าคลั่งครับ แล้วผมก็เลยเริ่มคิดว่า “ว้าว มันเท่สุดๆ ไปเลยแฮะ” บางทีมันก็อาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงรู้สึกว่าถูกดึงดูดโดยกีตาร์ครับ คุณแม่ของผม ท่านอยากให้ผมเล่นกลองเป็นครับ แต่เพราะว่าพวกเราอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์เล็กๆ ก็เลยไม่สามารถที่จะมีกลองไว้ที่บ้านได้ครับ เสียงมันดังเกินไป
Q : จุดที่ทำให้คิดว่าจะเดินทางสายดนตรีแบบจริงจัง เกิดขึ้นเมื่อไหร่ อย่างไร
A : โอ้ น่าสนใจมากครับ เอิ่ม เอาจริงๆ ผมก็ไม่เคยคิดถึงมันในทางแบบนั้นนะ เอิ่ม ผมก็แค่เริ่มจากการเขียนเพลง แล้วใครก็ตามที่อยากจะฟังมันก็สามารถมาฟังได้ อืม…ไม่รู้สิครับ ผมแค่พยายามที่จะไม่คิดเยอะเกินไปเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ของวงการเพลงน่ะครับ
Q : ชีวิตการเรียนดนตรีในมหาวิทยาลัย เป็นยังไงบ้าง สนุกสนานขนาดไหน และทำไมถึงเลือกเรียนทาง Jazz Voice และ Film Scoring
A : ช่วงสมัยเรียนมหาวิทยาลัยมันสนุกมากสำหรับผม เพราะว่าผมได้อยู่ท่ามกลางคนรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมที่รักอะไรเหมือนกันกับสิ่งที่ผมทำอยู่ แถมมันยังทำให้ผมสามารถค้นหาได้ด้วยว่าอะไรที่ทำให้ผมนั้นแตกต่างจากคนอื่นๆ และบางทีมันก็เป็นเรื่องที่ดีครับ ใช่ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีนะ และสิ่งที่ทำให้ผมนั้นแตกต่างจากคนอื่นๆ เลยคือการที่ผมชอบการบรรเลงเพลงแนว Sinatra และเพลงยุค 30s – 40s ครับ และผมก็เดาว่าคนอื่นๆ ก็คงฟังนักดนตรีผู้เป็นตำนานอย่าง Coltrane, Miles, and Monk ครับ เอิ่ม แต่ผมคิดว่า ไม่รู้สิ อะไรบางอย่างเกี่ยวกับเพลงป็อปยุคครึ่งศตวรรษที่แล้วมันเท่มากๆ เลยในสายตาของผม
Q : การนำดนตรี Jazz มาอยู่ในเพลง เกิดขึ้นได้อย่างไร เห็นในข้อมูลบอกว่าฟังเพลงอย่าง Led Zeappelin เล่นเกม Guitar Hero แนว Rock กับ Jazz มาเจอกันได้ยังไงครับ
A : ใช่ครับ ผมคิดว่านี่เป็นคำถามที่ดีมากเลยนะ เอิ่ม ผมเริ่มเข้าใจเพลง Rock ตอนที่ได้ฟัง The Strokes ครับ ผมคิดว่าแค่วิธีการที่พวกเขาเขียน ไลน์กีตาร์ที่มีโน้ตเพียงแค่ตัวเดียว (Single Note Guitar Line) มันก็เลยมีความรู้สึกของความเป็นเอกลักษณ์ในแต่ละเสียงดีครับ รู้สึกว่ามันก็เป็นเหมือนกับดนตรี Classical เหมือนกันครับ และดนตรี Classical เองก็เหมือนกันกับ Jazz รามกับว่ามันเชื่อมโยงกันทั้งหมดเลยครับ เอิ่ม ผมก็เลยคิดว่า แนวเพลงเหล่านี้ก็คงไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่ผมคิดว่า Jazz ก็คงเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการทำเพลงของผมครับ เพราะผมฟังมันเยอะมากๆ เลยนั่นเอง
Q : ข้อมูลแจ้งว่า ศิลปินที่เป็นแรงบันดาลใจ คือ Frank Sinatra, Ella Fitzgerald, Laufey และ John Mayer ที่ดูมีความแตกต่างกันพอสมควร อยากทราบว่าชื่นชอบอะไรของ 4 ศิลปินนี้
A : โอ้ เยี่ยมเลยครับคำถามนี้ เอิ่ม Frank Sinatra ผมชอบเพลงที่เขาเคยร้องมากๆ เลยครับ ซึ่งหลายๆ ครั้งเขาก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรมากหรอกครับถเาให้พูดกันตรงๆ แต่ผมชอบที่ทุกครั้งเวลาที่เขาร้องเพลงมันดูเป็นธรรมชาติมากๆ ครับ ผมชอบความเป็นธรรมชาติของเขาครับ สำหรับ Ella Fitzgerald เธอเป็นคนที่มีเทคนิคที่ดีมากๆ การร้องเพลงก็ดีและเธอเก่งในด้านการฟังดนตรีมากๆ ครับ ซึ่งเป็นอะไรที่ Frank Sinatra ไม่มีครับ ผมชอบความสุดยอดล้วนๆ ในทุกสิ่งที่เธอทำเลยครับ ดีมากจริงๆ มีใครอีกนะครับ มี Laufey อยู่ในลิสต์ด้วยรึเปล่านะ (หันไปรอฟังคนทวนศิลปินในคำถาม) Laufey เท่มากเลยครับ เธอได้เปิดประตูให้โลก (ของดนตรีประเภท) นี้มันเข้าถึงง่ายมากขึ้นสำหรับผู้ฟังทั่วไป และผมก็ชอบที่เธอได้กลายมาเป็นผู้เบิกทางตัวจริง ผมรู้สึกว่าทุกๆ รุ่น ไม่ ทุกๆ สิบปีก็มักจะมีซักคนที่มาคอยเบิกทางให้กับดนตรีประเภทนี้ รู้สึกดีมากๆ เลยครับที่ได้เห็นทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นในยุคนี้ ส่วนของ John Mayer เขาแค่เก่งกีตาร์มากๆ เลยน่ะครับ และก็ชอบวิธีที่เขาเขียนเพลงด้วยครับ
Q : ผลงานชิ้นแรกของ aron คือเพลงอะไร เล่าให้ฟังถึงแรงบันดาลใจในการทำเพลงนี้สักหน่อยครับ
A : โอ้ เพลงแรกของผมคืออะไรกันนะ เพลงแรกของผมมีชื่อว่า “Monkey in the middle” เพลงมันประมาณนี้ครับ (ร้องให้ฟังคร่าวๆ) และผมก็เอาแต่ร้องว่า มีลิงอยู่ตรงกลางครับ เอิ่ม คำถามคืออะไรนะครับ อะไรคือแรงบันดาลใจเบื้องหลังเพลงแรกหรอครับ ผมคิดว่ามันไม่ได้มีแรงบันดาลใจอะไรเลยนะ ผมแค่ชอบวิธีที่คำพวกนี้มันถูกออกเสียง บางทีคุณอาจจะเคยได้ยินชื่อเกม “Monkey in the middle” ไม่รู้สิครับ ตอนนั้นผมแค่อินกับ Tenecious D มากๆ ก็เป็นประมาณนั้นครับ
Q : EP นี้ aron อยากนำเสนอเรื่องราวของอะไรบ้าง
A : เอิ่ม มันค่อนข้างเป็นงานที่มาจากความหลงใหลของผม แบบว่าทุกๆ อย่างที่ผมอยากจะทำ ในแง่ของการใช้เครื่องดนตรีครับ ผมอยากมีพาร์ทของเครื่องสี ก็เลยแต่งให้มี String Quartet (วงเครื่องสี 4 คน: ไวโอลิน 2, วิโอลา 1 และ เชลโล 1) มี Clarinet, Saxophone, และ Flute และ Vibraphone และก็มีพาร์ทโชว์ความบ้าคลั่งของเครื่องดนตรีเน้นโชว์จังหวะด้วยครับ ผมแค่ชอบการที่ผมมีตัวเลือกหลากหลายสำหรับการโชว์จินตนาการของผมน่ะครับ ผมเลยอยากได้ความสุขนั้น ผมจำครั้งแรกที่ได้ฟังวงดนตรีเล่นทุกอย่างเข้าด้วยกัน ผมแบบ โว้ว เท่มากกกกกก เลย มันบ้ามากเลยที่พวกเขาได้อ่านโน้ตที่ผมแต่งแล้วพวกเขาก็เล่นมัน ฟังดูแล้วเข้ากันมาก ผมไม่รู้หรอกนะเรื่องของธีม แต่ผมหวังว่าความสุขที่ผมได้รับมาจากการสร้าง EP นั้นมันจะถูกส่งผ่านไปถึงทุกคน
Q : จนผลงานล่าสุด อะไรคือแรงบันดาลใจในการทำ EP “a cozy christmas” ของ aron
A : อย่างแรกเลยคือมันบ้ามากครับกับจำนวนผู้คนที่เข้ามาฟัง ผมไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นได้ ประมาณสองล้านครั้ง ใช่ไหมนะ สองล้านครึ่ง พระเจ้าช่วย ผมไม่ได้คาดหวังไว้เลย ผมใช้เวลานานมากเพื่อให้มีคนฟังถึงหนึ่งพันครั้ง นานมากจริงๆ ผมคิดว่าทุกอย่างก็คงต้องค่อยๆ ใช้เวลาเติบโตครับ แต่ที่มาของเพลงนี้มันเริ่มขึ้นจากตอนที่ผมอยู่ที่ New York ผมอยู่บนรถไฟใต้ดิน ไม่สิ นั่นมันจุดที่ผมเริ่มแต่ง Cozy นี่นา เอิ่ม “Table For Two” ไม่รู้สิ ผมก็แค่อยากทำเพลงแซมบ้าจังหวะเร็วๆ มาโดยตลอด โอ้ ผมจำได้แล้ว ก่อนหน้านี้ผมพยายามจะแต่ง “Table For One” มาเป็นเวลานานมาก เพลงเศร้า โต๊ะสำหรับหนึ่งท่าน แต่มันไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ครับ ก็เลยทำเป็น “Table For Two” แทน ผมเปลี่ยนมันเป็นเพลงแซมบ้าแทนที่จะเป็นเพลงช้าเศร้าๆ ครับ
Q : กับเพลงที่กำลังมาแรงอย่าง table for two การทำงานเพลงนี้เริ่มต้นยังไง
A : ผมว่า “Table For Two” เป็นเพลงที่เหมาะสำหรับคนที่จะเริ่มฟังเพลงของผมเป็นครั้งแรกนะครับ และก็ไปลองฟัง “Mahogany Session” ด้วยนะครับ อันนั้นก้ดีครับ ผมจำได้ว่าตอนนั้นพึ่งหายหวัด เป็นวันแรกเลยที่เสียงของผมกลับมา ผมเล่นกับนักเปียโนท่านนึงที่เยี่ยมมากๆ แต่ผมให้เขาเล่น Brushes แทนที่จะให้เล่นเปียโนครับ สนุกดีครับ
Q : มีโอกาสจะมาเยี่ยมๆ แฟนเพลงชาวไทยบ้างมั้ยครับ
A : คิดว่านะครับ น่าจะเป็นช่วงปีหน้านะ ผมคงต้องไปซักช่วงล่ะนะ
Q : ฝากผลงานเพลง
A : อย่างแรกเลยคือมี Cover เพลงของผมที่แสนน่าทึ่งมากมายเลย จากทุก ๆ คนทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลย มันเท่มากๆ เลยครับที่ได้เห็นอะไรแบบนี้ ผมอยากจะขอบคุณทุกคนที่ฟังเพลงของผมและผมเองก็ตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้เจอกับผู้คนที่ยังไม่ได้ฟังเช่นกัน ผมชอบที่ผมได้เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนได้ลงมือสร้างศิลปะไม่ว่าจะในรูปแบบไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการร้อง Cover หรือการเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาเริ่มแต่งเพลง ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตาม ผมแค่ชอบตอนที่ได้เห็นผู้คนสร้างงานศิลปะครับ




































