เวย์ (ปริญญา อินทชัย) เป็นคนในสาย Hip Hop ที่มักจะทำงานในลักษณะที่คิดแล้วทำเลยเสมอ วันนี้เขาคืออดีตหนึ่งในสมาชิกของวง Hip Hop อันดับหนึ่งของประเทศ Thaitanium ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ผู้ชายคนนี้มีความสงสัยในจิตใจตัวเองอยู่พอสมควร และใช้เวลาในการหามันสักพักจนตอนนี้ เขาได้คำตอบที่ชัดเจน และเมื่อคำตอบชัดเจนการลงมือทำเลยตามสไตล์ของเขาก็เป็นเรื่องปกติ ปัญหาก็คือเขาจะทำอะไร นี่คือความเคลื่อนไหวจากไอดอลสาย Hip Hop เวย์ Daboyway

เพลงของ Daboyway
เวย์ : ผลงานของผมก็จะเป็นเพลง Gangsh!t ที่ทำกับ Radio 300 เพลงนี้ก็ไม่มีอะไรเลยครับนอกจากความเป็น Represent กูเบ่งเต็มที่ เอาสะใจ (หัวเราะ) เพลงนี้เป็น Hardcore Trap เดือดๆ เลย จะมี 2 เวอร์ชั่นทั้งภาษาไทย กับอังกฤษ ก่อนหน้านี้ก็เป็นเพลง วันอะไร เพลงนี้เป็น Single เปิดตัวของผมกับ Def Jam Thailand เพลงนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของผมที่ทำเราทำในสิ่งที่เรารักจนเราเหนื่อย อดหลับ อดนอน ลืมวัน ลืมคืน พอรู้ตัวอีกทีเราก็ลืมไปแล้วว่าวันนี้เป็นวันอะไรวะ เพลงนี้จะเป็น Trap Soul ใช้เวลาไม่นานประมาณ 3 ชั่วโมงก็เสร็จ พอมันเริ่ม Flow มันก็มาเลย เพลงนี้ทำกับ Nino ด้วย ซึ่งจริงๆ ผมก็เริ่มทำกับ Nino ตั้งแต่เพลง “ไม่เอา” แล้วนะ ที่ feat กับ YoungOhm ซึ่ง 3 เพลงนี้ก็จะต่างจากเพลงที่ผมทำมาก่อนหน้านั้นอย่าง Yeah Yeah Yeah ถ้าไล่มาตั้งแต่ต้น แนวทางแต่ละเพลงที่ทำมาจะไม่เหมือนกันเลย ด้วยความที่ผมชอบเพลงหลายแนวอยู่แล้ว ตอนไทยเทฯ เองก็มีเพลงหลายแบบ ก็มีบางช่วงที่ผมอยากท้าทายตัวเองว่าจะทำเพลงแบบเป็นเพลงร้อง แบบนักร้องธรรมดาได้ไหม ซึ่งก็ปรับไปตามยุค ตอนนี้ก็เลยกลับมาแรพดีกว่า (หัวเราะ) โดยที่เพลงเหล่านี้ก็จะอยู่ในอัลบั้มเดี่ยวของผม ที่จะออกกับ Def Jam Thailand ซึ่งนอกจาก Streaming แล้วอาจจะมี Physical ออกมาเป็นซีดี เป็นอะไรด้วยอยากฝากให้ติดตามกัน
Def Jam Thailand คำตอบของคำถามที่คาใจ
เวย์ : ปีที่แล้วผมมีคำถามกับเส้นทางการเป็นศิลปินของตัวเองว่า “เป้าหมายของ Daboyway คืออะไร” มันมีอยู่ช่วงนึงที่เรารู้สึกว่ามันแตะเพดานแล้ว คือเราไม่ได้ตันนะ แต่ก้าวต่อไปของเราคืออะไรในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ หาคำตอบกับคำถามที่มีให้กับตัวเองผมเลยเดินทางไป LA ไป New York ไปเจอกับค่ายเพลงที่นู่นคือ Capitol Records ซึ่งเขาก็ต้อนรับเราอย่างดีนะ แล้วก็ให้ความรู้เรามาด้วย แล้วมีคำถามนึงที่เขาถามเรามาว่าสิ่งที่เราทำอยู่ที่เมืองไทยมันก็ดีอยู่แล้วนี่นา แล้วอยากจะเอาอะไรอีกล่ะ ซึ่งในใจผมเริ่มจะมีคำตอบแล้วหลังจากที่คุยกับเขามา คราวนี้ผมมีเพื่อนที่อยู่ใน Universal Music ซึ่งเรา 2 คนคุยเรื่องวงการเพลง แล้วก็เขาก็เห็นการเติบโตของ Daboyway เพื่อนผมก็เลยถามว่าผมอยากทำอะไร ซึ่งตอนนี้ผมมีคำตอบแล้ว ผมก็เลยบอกสิ่งที่ผมอยากทำทั้งหมดไปเป็นแผนชัดเจน ผ่านไป 2 อาทิตย์เขาก็กลับมาบอกว่า ถ้าเอา Def Jam ขึ้นมาวางบนโต๊ะ ผมจะทำสิ่งที่บอกเขาไปทั้งหมดโดยใช้ชื่อของ Def Jam Thailand ได้มั้ย ซึ่งผมก็บอกโอเค งั้นมาลองดู ผมไม่ได้ตกใจเลยนะว่ามันเป็น Def Jam เพราะผมชัดเจนแล้วในสิ่งที่จะทำ ไม่ได้จะบอกว่าผมเก่งขนาดที่จะมอง Def Jam เป็นเรื่องเล็กๆ แต่คำตอบที่ผมตอบคำถามในใจตัวเองมันพาผมมาถึงตรงนี้ มันถึงเวลาที่จะก้าวไปต่อ และนี่ก็คือก้าวเดินนั้น ผมรู้ตัวว่าตัวเองค่อนข้างใหม่แต่ผมมีแผนที่ค่อนข้างชัดเจน สมัยก่อนเวลามีใครถามผมว่าอยากได้อะไร ผมจะตอบว่าอยากได้ประมาณแบบนี้ อ้าวแล้วไอ้ประมาณแบบนี้ของมึงมันคืออะไรวะ (หัวเราะ) มันต้องตอบคำถามตรงๆ ไปเลย มึงอยากได้อะไร อยากได้แกรมมี่อวอร์ด อยากขึ้นบิลบอร์ดชาร์ต อยากทัวร์ต่างประเทศ อ้าว แล้วมันไปได้หรือไม่ได้ อันนั้นมันเป็นอนาคต แต่มึงต้องมีเป้าหมายก่อนเป็นอันดับแรก อันนี้ไม่น่าทำได้ช่างแม่ง อันนี้พอไหวมาลองดู คือผมอยู่วงการมาจะ 18-19 ปีแล้วเราจะมาอยู่แบบเป็นคลื่นๆ เรียบๆ มันไม่ใช่ มันต้องไปต่อ แล้วก่อนหน้านั้น Daboyway ทำเพลงภาษาอังกฤษผมก็มานั่งคิด เอ๊ะ!! อย่างงี้กูต้องทำไงวะ กูต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศไหม อ้าวลูกเมียกูล่ะ (หัวเราะ) แต่พอเรามานั่งคิด อ้าวมึงก็เคยไปทัวร์ต่างประเทศมาแล้ว อเมริกา ญี่ปุ่น มึงก็ทำจากที่นี่แล้วส่งออกไปก็ได้นี่ ผมก็เลยตอบตัวเองว่าเราจะไปโกอินเตอร์ทำห่าอะไร ก็ไปมาแล้ว (หัวเราะ) ซึ่งเราทำกับ Def Jam เราก็กระจายไปทั่วโลกได้อยู่แล้ว นั่นคือการที่ผมหาคำตอบให้กับตัวเอง ผมเป็นคนที่อยากจะทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ และถ้าผมแฮปปี้และภูมิใจที่จะนำเสนอมันผมก็จะทำมันเต็มที่ เวลาใครมาถามเรา เราจะได้ตอบเต็มเต็มปากว่ากูทำตรงนี้ แน่นอนผมไม่ปฏิเสธเรื่องยอด เรื่องอะไร มันมี แต่อย่าให้มีอิทธิพลกับทุกสิ่ง ผมยังมีแนวคิดแบบคนหัวเก่าอยู่ สิ่งที่เราคิดมันต้องออกมาจากข้างในตัวเรา อย่าเอาตัวเลขมาวัด หัวใจมันไม่เคยโกหกเราหรอก

บนเส้นทางของ Daboyway
ซาวด์ของตัวเอง
เวย์ : ตอนแรกผมไม่รู้ว่าจริงๆ Daboyway ควรจะไปทางไหนเพราะเราทำกับวงมาตลอดมีอะไรปรึกษากัน แต่พอมาทำเดี่ยว เราปล่อยเพลง Yeah Yeah Yeah ออกมาซึ่งเป็นภาษาอังกฤษเพราะผมถนัดทางนั้น เราก็เห็นว่าเออ มันก็มีคนฟังนะ จะด้วยมันฟังง่าย หรืออะไรก็แล้ว สิ่งที่ผมคิดคือจะทำยังไงให้เจอซาวด์ของตัวเอง จะทำยังไงให้ Daboyway มีความแตกต่างจาก ไทยเทฯ ซึ่งเราก็พัฒนามันมาเรื่อยๆ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ผู้บริหาร
เวย์ : ใน Def Jam Thailand ผมก็มาทำในส่วนของการเป็นผู้บริหารด้วย ก็ช่วยสำหรับศิลปินหน้าใหม่ ศิลปินที่จะมาเข้าค่าย ซึ่งเราอยากได้คนที่จะมาเล่าเรื่องในภาษาของ Hip Hop แล้วอยากได้ตัวจริง เราจะช่วยตรงนั้น คือมันไม่ได้แบบจะ Run วงการ มากมายขนาดนั้น เพราะผมเองก็รู้ว่าน้องๆ มันก็ทำงานเจ๋งๆ ของมันกันเองได้ แต่ถ้าเขาคิดว่าเขามีแผนอยากจะทำมากกว่านั้น เหมือนที่ผมเองก็มีแผนการของผม อันนี้เราสามารถช่วยคุณได้นะ ถ้าคุณมีแผนการจะไปต่อ วางไว้ชัดเจนลองมาคุยกัน
16 Bars Thailand
เวย์ : ตรงนี้ไม่เกี่ยวกับ Def Jam นะ 16 Bars Thailand เป็นการผลักดัน Culture Hip Hop ในรูปแบบของผม ที่ผมภูมิใจจะนำเสนอ คืออันนี้ผมไม่ได้ว่าใครนะครับ มีหลายคนเหมือนกันถามผมว่าทำไมไม่ไปออกรายการนั้น รายการนี้ คือมันไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากทำหรือถนัดด้วย ผมอยากเดินในทางที่ผมแฮปปี้และภูมิใจที่จะเสนอมันมากกว่า

ผู้ไม่ถือตัว
เวย์ : ก็พวกน้องๆ มันเจ๋งนะ ทำไมผมจะต้องไม่ไปร่วมงานล่ะ มันคือการซัพพอร์ต ทำไมผมจะไม่ซัพพอร์ตล่ะอย่าง Younggu ผมก็ว่าเขาเจ๋งนะ ก็ลองผิด ลองถูกทำมาเรื่อยๆ จนเขาก็ทำออกมาได้ ผมว่าการทำออกมาเรื่อยๆ โดยไม่หยุด สักวันสิ่งที่ดีๆ มันก็จะเข้ามา เมื่อเป็นแบบนี้ทำไมผมถึงจะไม่ซัพพอร์ตล่ะ คือผมฟังพวกเขาทั้งหมด แล้วดูการเติบโต ผมเห็นพลังงานของพวกเขา ความเป็น Gang ผมก็เปิดโอกาสให้เขาทัวร์ด้วยกัน
ข้อคิดจาก Daboyway
เวย์ : กระแสดนตรีมีขึ้นมีลงใช่ครับ Hip Hop ก็เหมือนกัน เราเห็นกันมาอยู่แล้ว ตอนนี้ในวงการเราก็เห็นบางคนดังขึ้นมา มีคนเกิดใหม่ทุกวันๆ แต่สิ่งที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์คือวันเวลา ตอนนี้ผมเองก็ชี้ชัดลงไปไม่ได้ว่าใครจะได้ไปต่อ เพราะทุกคนยังอยู่ในเกม ผมอยู่ตรงนี้มา 19 ปี ถ้ามึงคิดว่าเจ๋งก็อยู่ 19 ปีให้ได้เหมือนกูสิ (หัวเราะ) คือโอเคตอนนี้ทุกคนมันเจ๋งแหละ แต่คุณอยากจะยืนหยัดไปตลอดไหมล่ะ อันนี้ไม่ได้สอนนะแต่จะให้คำแนะนำว่า…มันไม่ได้ง่าย ตอนนี้คุณแม่งมีทุกอย่างใน 9 เดือน ใน 1 ปีที่ผ่านมา แต่คุณจะคงมันอยู่ได้ไหมในอีก 3 ปี 5 ปี หรือ 10 ปี ตอนนี้ใน Hip Hop มีดาวเยอะมากขึ้น แต่การที่จะเป็นตำนาน คุณต้องใช้เวลา ผมอยากจะฝากบอกว่าทุกอย่างมันไม่ง่าย อย่าคิดว่าตัวเองรู้ทุกเรื่อง ปัจจุบันคือสิ่งที่ไม่เคยสิ้นสุด จงเรียนรู้ในทุกๆ วัน ตอนเด็กๆ ผมก็เป็นคิดว่าตัวเองรู้ทุกเรื่อง คิดว่าตัวเองฉลาด พอแล้วกูรู้หมดแล้วพอ Fuck All!! ทั้งหมดนั่นมันไม่จริงเลย “จงรับผิดชอบในสิ่งที่ได้มา” จะไปตีความคำนี้ยังไงก็แล้วแต่

แบงค์ Clash เพื่อนซี้ที่ไม่อยากเจอ
เวย์ : ช่วงก่อนหน้าผมเพิ่งเจอมันไป ช่วงนี้ก็เลยยังไม่ค่อยอยากเจอหน้ามันเท่าไหร่ (หัวเราะ) มันบอกว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้เราจะไม่ทำหนังเรื่องนั้นกันใช่ไหม ค…..(หัวเราะ) แต่เวลาเมาๆ มา มันก็มีไฟอยากจะทำหนังทุกที (หัวเราะ) คือถ้าจะทำจริงๆ ตอนนี้เราก็จะคุยกันอีกแบบ แต่สมัยนั้นมัน Passion ล้วนๆ ความอยาก ความดื้อ ซึ่งมันเป็นประสบการณ์ที่ทำให้ผมกับมันเป็นเพื่อนรักกันจนถึงทุกวันนี้
ขอขอบคุณ : น้ำหนึ่ง Universal Music Thailand ที่อำนวยความสะดวกในการสัมภาษณ์ครับ



































