จากวงดนตรีที่เป็นไซด์โปรเจ็กต์จนกลายเป็นวงที่มีแฟนเพลง ผูกพันกับวงเหมือนครอบครัว Whal & Dolph วงดนตรีคนคู่ที่มักจะทำเพลงเพื่อสะท้อนให้เห็นเรื่องความสัมพันธ์ผู้คน ความรักในรูปแบบต่างๆ กับดนตรีที่ฟังสบายและมีชั้นเชิง กับอัลบั้มใหม่วิลิศมาหรา เรามาฟังเรื่องราวการทำงานของอัลบั้มนี้กับทั้ง 2 หนุ่ม ปอ กับ น้ำวน ได้เลย
วิลิศมาหรา จาก Whal & Dolph
ปอ : เราทำอัลบั้มนี้ตั้งแต่ Covid รอบแรกเลยครับ แล้วเราก็ทยอยปล่อยเพลงจากในอัลบั้ม มาเรื่อยๆ ในอัลบั้มมีอยู่ 10 เพลง ซึ่งเราก็ทยอยปล่อยมาจนเกือบครบแล้ว เป็นการทำงานในรูปแบบที่เราถนัดคือทำอัลบั้มแล้วก็มาเลือกเพลงเพื่อที่จะปล่อยทำ MV
แค่ฝันไป หนึ่งในเพลงเศร้าของอัลบั้ม
ปอ : เพลงนี้ตอนแรกผมอยากจะทำเป็นเพลงมีเครื่องเป่า จังหวะสวิงๆ หน่อย แต่พอเอามาให้น้ำวนฟัง เขาคิดเป็นอีกแบบนึง
น้ำวน : คือพอผมดูเนื้อหาอะไรแล้วก็รู้สึกว่าเพลงนี้ไม่ได้เหมาะกับความชิลสักเท่าไหร่ เลยอยากทำร็อคนิดๆ เท่ๆ มากกว่า เลยมาเป็นเพลงแบบที่ทุกคนได้ฟัง
ปอ : พอฟิลเพลงที่คิดภาพมันต่างกัน เราก็เลยลองแจมกันดู ปรากฏว่าเพลงนี้มันก็มีความเศร้าบางอย่าง มันให้อารมณ์ แบบซึมๆ เจ็บๆ ได้ ก็เลยมาเขียนเพลงนี้ต่อ ตอนแรกมีแค่ท่อนฮุค จำได้ว่าตอนแต่งตอนแรก ผมเดินไปร้านฟิล์มที่ยูเนี่ยนมอลล์ ก็ฮัมเมโลดี้นี้ขึ้นมา ตั้งใจอยากแต่งเพลงเกี่ยวกับความฝัน ก็ได้ท่อน “เก็บคืนวันที่ดีที่เคยฝันไว้ จบไปแล้ว จากไปแล้ว” ก็มาคิดต่อว่าจะเล่าเรื่องอะไร ก็ได้เป็นเรื่องที่ผมเจอในอดีต เป็นความสัมพันธ์ของคน 2 คน ผมคิดถึงรุ่นพี่ที่สนิทกับผมคนนึงแล้วเขาเสียไป ผมกับเขาเคยมีความฝันร่วมกันตอนเด็กๆ ชอบร้องเพลง ชอบอะไรแบบนี้ แล้วพอเขาไม่อยู่สิ่งที่เราเคยฝันก็คงไม่เป็นจริงแล้ว ก็มานั่งเขียนเพลงด้วยคอนเซ็ปต์นี้ “อะไรที่เราได้เคยฝัน มันอยู่ตรงนั้น เหมือนเดิมทุกอย่าง แค่เพียงเธอหายไปไม่เจอ” คนที่ยังอยู่อาจจะคิดถึงคนๆ นั้นมาก แต่ก็ต้องยอมรับด้วยว่าเขาไปแล้ว ช่วงเวลาที่ดีที่เคยมีกันกลายเป็นแค่ฝันไป เลยเขียนเพลงนี้จนจบ ก็มาคิดรายละเอียดดนตรีเพิ่ม ท่อนเปลี่ยนคีย์ เครื่องสาย เพิ่มเสียงคอรัสผู้หญิงลงไป ซึ่งก็ได้น้องยุง เป็นนัก Cover ที่เราชอบเสียงของเขา น้อง มู่ จากวง Kopycat มือไวโอลินของเราชื่อโวล์ท จบจาก Berklee มา แล้วก็ได้พี่ไอซ์ จากวงอัศจรรย์ธรรมดา มาช่วยเรื่องเรียบเรียงเครื่องสาย ก็มีคนช่วยหลายคนอยู่
พาร์ทดนตรีที่มีกิมมิก
ปอ : อย่างที่ผมบอกตอนแรกเราคิดเพลงนี้มาอีกมู้ดนึง แล้วก็แต่งต่อไม่ได้จนมาแจมดนตรีกับเพื่อนๆ เราก็เห็นทรงเพลงของมันชัดเจนขึ้น ในเรื่องของดนตรี เราเริ่มด้วยกลองแบบมินิมอล พอมาถึงท่อนโซโล่ มันก็จะเป็นอีกแบบนึงเลย เราอยากให้อารมณ์เหมือนอยู่ในฝัน พอจนก็กลับมาท่อนร้องเหมือนดึงมาอยู่ในปัจจุบัน แล้วจบด้วยกลองเหมือนตอนเริ่มต้น
ความรัก ความสัมพันธ์ ความเจ็บปวด
ปอ : ตอนแรกเราจะตั้งชื่อเพลงนี้ว่า “ที่เคยฝันไว้” แล้วมาเปลี่ยนเป็นแค่ฝันไปทีหลัง ถ้าคนดู MV จะเห็นในด้านความรักของหญิง-ชาย หรือคู่รัก แต่ถ้าฟังเพลงอย่างเดียวแล้วลองนึกถึงมันใช้ได้กับทุกอย่างนะ ท่อนที่ผมร้องในท่อนคอรัส ถ้าคนมาตีความดีๆ คำว่า “เก็บคืน” มันไม่ใช่ “เก็บคืนวัน” แต่เป็นคำว่า “เก็บคืน” ซึ่งจริงๆ คิดดีๆ มันเป็น 2 ความหมาย ซึ่งเราสรุปในเพลงไปแล้วว่าจบไปแล้ว จากไปแล้ว บอกตัวเองให้เข้าใจว่าช่วงเวลาดีๆ มันก็ต้องมีวันหายไป เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมชอบเป็นพิเศษนะไม่ว่าจะเป็นเรื่องดนตรี หรือองค์ประกอบต่างๆ ใน MV จะเป็นเรื่องราวที่ดูเบากว่า เนื้อหาเพลงจริงๆ
กับอัลบั้มใหม่ “วิลิศมาหรา”
ปอ : ที่มาของชื่ออัลบั้มนี่ไม่มีอะไรเลยครับ เราไปประชุมที่ค่าย ขับรถออกมาเห็นร้านอยู่ร้านนึง เป็นร้านขายของเก่าชื่อวิลิศมาหรา ตอนนั้นเราทำเพลงแรกในอัลบั้มที่ชื่อว่าเพลง ใจเดียว เรารู้สึกว่าคำว่าวิลิศมาหรา มันเข้ากับเรามาก เพราะอัลบั้มนี้ตั้งใจทำเพลงแบบวินเทจ มีเครื่องสาย เครื่องเป่า อยากให้คนได้ฟังเพลงแบบนี้ เพราะดนตรีป็อปยุคใหม่จะเน้นพวกซาวด์เยอะๆ เราอยากทำเพลงให้ได้ซาวด์เหมือนวงเก่าๆ แบบอ๊อด คีรีบูน อยากให้คนฟังรู้สึกว่าอัลบั้มนี้มีทั้งความเก่าและความโมเดิร์นผสมกันอยู่ ซึ่งถ้าได้ฟังเพลงในอัลบั้มอย่างเพลง “ย้อน” นี่จะแบบสไตล์เก่าเลย ถ้าคนซื้อแผ่นไปฟังแล้วฟังแบบเรียงแทร็คมันจะเพลิน
น้ำวน : เราอยากทำอัลบั้มให้เหมือนเราย้อนไปฟังเพลงไทยยุคเมื่อ 15-20 ปีที่แล้ว ยุคที่อุตสาหกรรมเพลงไทยเพิ่งเริ่ม
ปอ : มันจะมีเมโลดี้แบบที่จะเป็นเมโลดี้จำเหมือนฟังเพลงเก่าๆ ซึ่งเราไม่รู้หรอกว่ามันจะประสบความสำเร็จไหม แต่ตอนนี้เราอยากทำแบบนี้ ถ้าใครมีแผ่นอัลบั้มเราเขียนบอกว่าพอเราทำอัลบั้มเสร็จ เราจะไปขอถ่ายรูปร้านวิลิศมาหรา ซึ่งก็ถ่ายมาแล้วสวยงาม (หัวเราะ)
น้ำวน : อัลบั้มนี้มันมีทั้งความเครียดแล้วความสนุก คือตอนที่เราเริ่มทำอัลบั้มเป็นช่วง Covid ทำให้เราได้คิด ได้คอนเซ็ปต์มาก็ค่อยๆ ทำ แต่คราวนี้พอระหว่างทำ งานทัวร์ก็กลับมา เดดไลน์ก็มา ก็จะเครียดตอนนั้น แต่รวมๆ แล้วเราค่อนข้างพอใจ
เจาะลึกอัลบั้ม
ปอ : เราเริ่มทำอัลบั้มนี้ตั้งแต่ที่ปล่อยเพลงใจเดียว ใจสลายแล้ว ก็เป็นปีเหมือนกัน แล้วก็ไล่ทำเพลงมาเรื่อยๆ
น้ำวน : ถ้าเปรียบเทียบความแตกต่างในอัลบั้มแรก คืออัลบั้มแรกเราไม่เคยมีอัลบั้มดังนั้นเราจะใส่อะไรลงไปก็ได้ มันตื่นเต้นไปหมด คราวนี้พอเพลงอัลบั้มแรก กับ EP ถัดมามันเป็นแนวแบบนี้ เราก็ตั้งใจว่าอัลบั้มที่ 2 เราจะไม่ทำซ้ำเดิม อันนี้เป็นความยากอย่างแรกแล้ว
ปอ : ที่เหมือนเดิมคือวิธีการเล่าเรื่องของผม ผมจะไม่ค่อยกังวลว่าเรื่องที่ผมเล่าจะซ้ำหรือไม่นะ เพราะผมจะไม่เก่งในการแต่งแบบวางคอนเซ็ปต์ว่าจะเล่าเรื่องนี้ ตอนนี้เขาอินเทรนด์อะไร ผมจะเล่าในสิ่งที่ผมรู้สึกตอนนั้น ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าที่ผมอยากเล่าคนอยากจะฟังหรือเปล่า แต่อย่างน้อยผมก็ไม่โกหกความรู้สึกตัวเอง เพราะฉะนั้นถ้าเพลงมันอาจจะไม่ประสบความสำเร็จผมก็ยอมรับได้นะ
น้ำวน : มันเป็นความตั้งใจของเราด้วยว่าอยากให้เพลงพอมันผ่านไป 5 ปี 10 ปี ก็ย้อนกลับมาฟังได้ แต่ที่พูดมาไม่ได้หมายความว่าการแต่งเพลงคอนเซ็ปต์มันจะไม่ดีนะครับ เพียงแต่ท่าที่เราถนัด เป็นแบบนี้มากกว่า
“ย้อน” เพลงที่เกือบไม่ได้อยู่ในอัลบั้ม
น้ำวน : เพลงนี้นี่ขึ้นมาให้ความรู้สึกเหมือนบ้านทรายทอง สำหรับผม (หัวเราะ) ซึ่งก็ตั้งใจแบบนั้นครับ แต่เพลงนี้เกือบไม่ได้อยู่ในอัลบั้มนะ เป็นเพลงที่เราเถียงกันอยู่เหมือนกัน คือมันมีเดดไลน์ส่งงานอยู่ แต่เราไม่อยากจะรีบเร่งทำเพราะกลัวมันออกมาไม่ดี แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจทำออกมาอยู่ดี แล้วก็กลายเป็นเพลงที่เราชอบมากที่สุดเพลงนึงในอัลบั้ม ทำให้เรารู้ว่าการทำงานก่อนเดดไลน์ ก็ดีเหมือนกันถ้ากดสูตรติดนะ (หัวเราะ)
“พอ” เพลงที่ทำให้เรารู้จักพวกเค้า
ปอ : เพลงนี้เราอัดไว้เป็น Live Session ลง YouTube เพลงนี้เป็นเพลงที่ 2 ของพวกเรา ซึ่งแฟนๆ ก็บอกว่าอยากให้เพลงนี้อยู่ในอัลบั้ม เราก็เลยไปอัดเป็น Audio ไว้ให้ ซึ่งความยากอยู่ที่จะทำยังไงให้เพลงนี้ไม่เปลี่ยนไปมาก แต่ฟังดูแล้วไม่เหมือนเดิม ผมไปอัดร้องครั้งแรกกลับมาฟังแล้ว ความรู้สึกมันไม่ได้เลย ต้องกลับไปดูคลิปที่ตัวเองร้องไว้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว แล้วแกะที่ตัวเองร้องออกมา แล้วมาอัดใหม่ให้ใกล้เคียงร้องตอนนั้น ซึ่งเป็นโจทย์ที่ยากจริงๆ
จากไซด์โปรเจ็กต์ สู่คอมมิวนิตี้แบนด์ กับความคาดหวังของแฟนเพลง
ปอ : ถ้าจะบอกว่าความคาดหวังไม่มีผลกับการทำเพลงของเรามันก็โกหกล่ะ เมื่อก่อนตอนที่เราคิดว่าจะทำ Whal & Dolph เป็นไซด์โปรเจ็กต์ เราปล่อยเพลงอะไรก็ได้ ถ้ามันเพราะ เดี๋ยวคนก็แชร์ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว มันมีการจับตามองจากแฟนเพลง ในมุมที่ดีก็คือมีเส้นมาตรฐานให้พวกเรา แต่ขณะเดียวกันบางครั้งเราก็ต้องเอาเส้นนั้นออกไปบ้าง ไม่งั้นเราจะจำกัดกรอบให้คิดอะไรใหม่ๆ ไม่ได้
ถ้า ปอ และน้ำวน เป็นแฟนเพลงวง Whal & Dolph อยากฟังเพลงอะไรของวงนี้
ปอ : ผมอยากฟัง “ฉันดีใจที่ได้พบเธอ” เพลงนี้เป็นเพลงที่หลายคนชอบฟัง แต่วงเราเล่นไม่ถึง 5 ครั้งด้วยมั้ง หรือ “น้ำตาฟ้า” ก็ไม่ค่อยได้เล่น
น้ำวน : ถ้าเป็นผม ผมอยากฟังเพลง “ยิ้ม” ที่เป็นเพลงแรกของวง เป็นเพลงที่ผมเองก็อยากเล่น แต่เล่นไม่ได้ ถ้าผมเป็นแฟนวงนี้ ผมก็คงอยากฟังเพลงนี้แหละ
กับครอบครัวปลาที่เหนียวแน่น
ปอ : ผมนับถือใจแฟนคลับเราเลยนะ บางคนตามเรามาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ผมว่าจิตใจเขาต้องแข็งแกร่งมาก
น้ำวน : เจอกันเหมือนเป็นเพื่อนกันไปแล้ว ไม่ใช่แบบเป็นแฟนเพลงกับศิลปิน (หัวเราะ)
ปอ : ผมรู้สึกดีที่เห็นบางคน สักเป็นรูปหน้าเราสองคน (หัวเราะ) เรารู้สึกดีที่เพลงของเราเป็นสิ่งช่วยนำทางให้เขา มันทำให้เราทำเพลงแบบที่ทั้งเคารพแฟนคลับ และเคารพในตัวเองด้วย ซึ่งผมรู้สึกดีมากๆ
แผนการและความคาดหวัง
ปอ : ก็ถ้าเป็นไปได้ก็อยากปล่อยเพลงในอัลบั้มนี้เป็น MV อีกหลายเพลง แต่ยังไงก็ต้องรอดูสถานการณ์อีกที ยังไงก็ฝากแฟนๆ ติดตามพวกเราด้วยนะครับ แล้วก็ต้องขอบคุณ The Guitar Mag ที่ให้เกียรติวงเราอยู่เสมอ เราก็หวังว่าจะเป็นวงที่ดี ทำเพลงมีคุณภาพไปอีกนานๆ ครับ
ขอขอบคุณ : เฟิร์ส, วิ What The Duck ที่อำนวยความสะดวกในการสัมภาษณ์ครับ