แฟนๆ อาจจะรู้จัก “พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร” ในฐานะนักแสดง โดยเฉพาะในบทบาทของ “โอ้เอ๋ว” จากซีรี่ส์แปลรักฉันด้วยใจเธอ ที่ทำให้หลายคนประทับใจ และในอีกบทบาทนึงที่กำลังจะเกิดขึ้นในชื่อ PP Krit ก็คือนักร้อง และจากคู่ซี้อย่าง “บิวกิ้น” ปล่อยเพลงจนโด่งดังไปก่อนหน้า คราวนี้ก็ถึงเวลาของ “พีพี” ละ เรามาทำความรู้จักกับ PP Krit กับการเดินทางในฐานะศิลปินเดี่ยวครั้งแรกกันเลย
บทบาทของ PP ในฐานะนักร้อง
PP : ถ้าเท้าความกลับไป จริงๆ พีไม่ใช่คนที่ร้องเพลงจริงจัง คือก็ชอบร้องเพลงแหละ แต่ไม่ได้ถึงขนาดอยากเป็นนักร้อง ศิลปิน บังเอิญตอนนั้น เคยได้รับโอกาสไป Cast เพื่อเข้าไปอยู่ 9×9 ตอนนั้นตื่นเต้นมาก ไม่ได้มีความมั่นใจเลย แล้วสุดท้ายก็ไม่ได้เข้าไปอยู่ แต่คราวนี้ตอนที่ Cast ก็จะมีพี่ๆ เขาเห็นศักยภาพเราว่า เออ ในสายร้องก็พอไปได้นะ ก็เลยได้โอกาสเล่นในซีรี่ส์แปลรักฉันด้วยใจเธอ ที่มีเพลงกีดกัน ของบิวกิ้น แล้วอีกเวอร์ชั่นที่เป็นภาษาจีนของเพลงนี้ กับ “หรูเหอ” ซึ่งเราได้ร้องในเวอร์ชั่นนี้ เป็นการต่อยอด เรื่องของอารมณ์จากตัวละครในซีรี่ส์ด้วย มาถึงเราก็เจอภาษาจีนด้วย แล้วเราก็ร้องอัดเสียงจริงจังเป็นครั้งแรก กดดันมาก ต้องเรียนภาษาจีน แล้วก็เรียนร้องเพลงเพื่อให้ร้องได้ พอได้อัดเสียงตอนนั้นเลยรู้ว่ามันยากมาก พอเรามาอยู่ในกระบวนการจริงๆ ทำให้เรารู้ว่าการทำเพลงๆ นึงมันใช้พลังงานเยอะมาก มันต้องใช้ความคิด ความรู้สึก เพราะตอนแรกคิดว่าร้องเพลงก็คือร้องเล่นๆ ทำให้เราได้รู้ว่าอารมณ์เพลงเป็นสิ่งสำคัญมาก เราอาจจะร้องไม่เพราะ แต่มีฟิลลิ่งไปกับเพลง เราอินไปกับความหมายที่สื่อสารลงไปในบทเพลง ซึ่งเราคิดว่าตรงนี้สำคัญมากและอยากจะพัฒนาในจุดนี้ให้ดีขึ้นด้วย
กับเพลง ห่มผ้า
PP : เพลง ห่มผ้า เป็นเพลงที่ขยายความมาจาก ซีรี่ส์แปลรักฉันด้วยใจเธอ มู้ดของเพลงจะเป็นแบบ R&B ได้พี่โตวง Mirrr กับพี่ย้ง ทรงยศ มาช่วย เพลงนี้มีความท้าทายตรงที่มันเป็นเพลงที่ร้องค่อนข้างยาก ในตอนที่ทำตอนแรก ในเรื่องของจังหวะ ความยากของการทำงานก็คือด้วยสถานการณ์ของ Covid ช่วงเวลานั้นทำให้ตารางทุกอย่างมันเลื่อนมา จนการถ่ายทำซีรี่ส์ กับการร้องเพลงมันมาชนกัน เพราะฉะนั้นทำให้เรามีเวลาได้เตรียมตัวร้องกับเพลงนี้ 3 วัน มันมีเวลาน้อยมาก อย่างเวลาเบรกพักตอนถ่าย เราก็จะฟังเดโม่เพลงนี้ให้ชินไว้ตลอด ให้เมโลดี้ให้คุ้น ตอนอัดพี่โตก็จะมาแบ่งวรรคเนื้อเพลงให้ บอกให้เราร้องถึงตรงนี้ ให้ใช้ลมหายใจถึงตรงนี้ แล้วก็ร้องไกด์ให้ฟังเลย แล้วก็มีพี่เบล สุพล ช่วยดูอีกคนนึง ในด้านเนื้อหา เพลงนี้พูดถึงความเหงาที่ตัวละครโอ้เอ๋ว ที่เขาย้ายจากกรุงเทพฯ มาภูเก็ต ก็จะมีความคิดถึงบ้าน แล้ว โอ้เอ๋ว ก็จะมากับเต๋ ที่เป็นแฟนเค้า คือเต๋ไปติดทำละครที่คณะไม่มีเวลาให้ แล้วก็เริ่มมีเพื่อนกลุ่มใหม่ ซึ่งตัวเราเองยังไม่มีสังคมขนาดนั้นก็เลยเป็นความเหงา 3 เรื่อง คือตัวละครก็เข้าใจสถานการณ์นะ มันเป็นความเหงาที่ทำไมไม่มีใครดูแล แต่ก็มีความเข้าใจด้วย ก็เลยเป็นที่มาของเนื้อหาเพลงห่มผ้า ซึ่งเราอยากให้ใครสักคนมาห่มผ้าให้เรา และมันหมายถึงมีใครสักคน กอดเราอยู่ด้วย มันก็จะทำงานทั้งการร้องเพลง และการทำอารมณ์ แต่ด้วยความที่เรา ผ่านงานแสดงมาเยอะกว่า เลยบิ้วอารมณ์ง่าย แต่กับการร้องเพลงเราใหม่มาก ก็เลยทำงานตรงนี้ลำบากกว่า อย่างท่อนฮุค ก็แอบร้องไม่เข้าปากอยู่เหมือนกันนะ แต่ถ้าเทียบกับงานที่ผ่านมา “หรูเหอ” จะยากที่สุด เพราะเป็นภาษาจีนด้วย อันนั้นต้องอัดทีละคำเพื่อให้ได้สำเนียงด้วย ถ้าเพลงนี้ก็เป็นเรื่องจังหวะ เอาจริงๆ พอมิกซ์เพลงนี้ พีเองก็ยังไม่มั่นใจ ไม่รู้จะออกมาดีหรือเปล่า แต่ฟีดแบ็คที่ได้ค่อนข้างดี แฮปปี้
เรื่องราวใน MV
PP : ใน MV จะมีดอกทานตะวัน ซึ่งจะสัมพันธ์กับซีรี่ส์ เพราะในเนื้อเรื่องของซีรี่ส์ เวลามีการแสดงความยินดีก็จะมีการให้ดอกทานตะวัน ซึ่งมันจะยังมีสัญลักษณ์อื่นอีก แต่ยังบอกไม่ได้ (หัวเราะ) ตอนถ่าย MV ด้วยความที่เราถ่าย 2 MV ก็ถ่ายตั้งแต่เช้า ถึงตี 4 แล้วด้วยชุดที่เราถ่ายทำมันเป็น Latex ก็ร้อนมาก แล้วในฉากจะมีแบบนอนตรงถนนแล้วพลิกมาเป็นเตียง อันนั้นนอนถนนจริงๆ แล้ว อากาศเมืองไทยด้วย คือใน MVเหมือนจะเย็น แต่แบบร้อนสุดๆ (หัวเราะ) ส่วนตอนท้ายก็มีแอบหลับจริงบ้าง (หัวเราะ)
ไลฟ์สไตล์ดนตรีของ PP Krit
เพลงที่ฟังตอนเด็กๆ
PP : ชอบ K Pop กับ Kamikaze เราก็โตมาในยุคนี้ก็จะชอบ โฟร์ มด, หวาย ถ้าเป็น K Pop ก็ SNSD, Twice เรามาสายนี้ (ยิ้ม)
เพลงที่ชอบฟังตอนนี้
PP : ชอบ R&B ฝั่งเกาหลี คือเราฟังเนื้อหาไม่ออกหรอก แต่ในเรื่องของการสื่ออารมณ์ มีเยอะมากเลย เราฟังแล้วรู้สึกถึงการสื่ออารมณ์เขาได้เลย มันเศร้าจริงๆ เสียงที่เขาร้องออกมาทำให้รู้สึกมากๆ เลย
เพลงที่แรกที่สามารถร้องได้จบเพลง
PP : เสียใจแต่ไม่แคร์ ของหวาย ร้องได้ทั้งเพลง ชอบมาก เลิฟมาก
เครื่องดนตรีที่เล่นได้
PP : เชื่อไหม เมื่อก่อนที่บ้านจับเราเรียนดนตรีเยอะมาก ตั้งแต่ดนตรีไทยพวก ระนาด จนถึงไวโอลิน กีตาร์ไฟฟ้า แต่เรียนได้สัก 2 อาทิตย์เลิก ก็เลยแทบเล่นอะไรไม่ได้เลย แต่ถ้าให้ย้อนกลับไปเรียนอักครั้ง ก็อยากเรียนเปียโน เพราะเป็นเครื่องดนตรีที่เรียนนานมาก เรียนอยู่ 2 ปี แต่ตอนนั้นเรา 7-8 ขวบ เลยรู้สึกว่าน่าจะได้อะไรมากกว่านี้ ถ้าย้อนไปได้ก็อยากเรียน เปียโน
เสก “บิวกิ้น” ให้เป็นเครื่องดนตรี 1 ชิ้น จะเสกให้เป็นเครื่องดนตรีอะไร
PP : น่าจะเป็นแซ็กโซโฟน เพราะเขาชอบฟัง Jazz
ผลงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
PP : ก็อาจจะมีเพลงที่เป็น Single เดี่ยวๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับซีรี่ส์ออกมา ตอนนี้ก็กำลังทำงานกันอยู่คงได้เห็นอีกไม่นาน เป็นงานในฐานะศิลปินเดี่ยวเต็มตัว ยังไงก็ฝากเพลงแล้วก็ซีรี่ส์ด้วยนะครับ
It’s Okay Not To Be Alright
ซิงเกิลเปิดตัว PP Krit ในฐานะศิลปินเดี่ยวอย่างเป็นทางการ
เมื่อ 13 สิงหาคม PP Krit ปล่อยซิงเกิลใหม่ออกมาชื่อ It’s Okay Not To Be Alright เป็นแนวเพลง สไตล์ R&B ฟังสบาย ให้กำลังใจ โดยคอนเซ็ปท์เพลงนี้ เล่าถึงการยอมรับความเป็นไปว่าจริงๆ แล้วในวันที่รู้สึกไม่ไหว อ่อนล้า หรือเจ็บปวด มันไม่เป็นไรนะที่จะรู้สึกไม่โอเคแบบนั้น ถ้าเหนื่อยก็พัก ไม่จำเป็นต้องฝืน
ส่วนทีมเพลงได้ ปั้นและเบน จากวง LUSS มาช่วย โดยเบน เป็นโปรดิวเซอร์ และเรียบเรียง โดยมี ปั้น เป็น Co-producer และแต่งเนื้อร้อง ทำนอง ซึ่งได้แรงบันดาลใจและคอนเซ็ปต์มาจาก PP Krit รวมทั้งยังได้ โป โปษยะนุกูล และย้ง ทรงยศ สุขมากอนันต์ เป็น Executive Producer
PP Krit (พีพี กฤษฏ์) พูดถึงซิงเกิลใหม่
“สำหรับเพลง It’s Okay Not To Be Alright ถือเป็นซิงเกิลเดี่ยว ซิงเกิลแรกของพีเลยครับ ในพาร์ตศิลปินเต็มตัว สำหรับเนื้อหาก็จะเป็นช่วงหนึ่งของชีวิตพี ที่พีรู้สึกว่าไม่โอเค แต่ก็ต้องโอเคกับสถานการณ์เหล่านั้น ซึ่งเนื้อหาเพลงนี้สื่อได้ทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ เรื่องเพื่อน เรื่องงาน หรือว่าเรื่องชีวิตส่วนตัวต่างๆ สำหรับตัวพีเอง รู้สึกว่าเพลงนี้รีเลทไปได้ทุกเรื่องเลย ส่วนเอ็มวีเพลงนี้ มีพี่บอส นฤเบศ มาช่วยกำกับให้ครับ ครั้งนี้พี่บอสได้มาลองกำกับเอ็มวีในอีกแนว ซึ่งในเอ็มวีเพลงนี้ ก็จะได้เห็นลุคใหม่ๆ ของพี 5 ลุคด้วยกัน โดยในแต่ละลุคก็จะมีความหมายแฝงอยู่ อย่างแนว Queen ก็จะสื่อว่า จริงๆ เรามีทุกอย่าง แต่เรายังไม่มีใครที่มานั่งอยู่ข้างๆ อย่างลุค Slave คือจะสื่อถึงความเจ็บปวดที่ได้รับมา, ลุค Exercise ก็จะสื่อว่าเราพยายามเปลี่ยนแปลงข้างนอกของเราขนาดไหน แต่สุดท้ายอาจจะไม่มีใครอยู่ข้างๆ เราก็ได้ ส่วนลุค Holiday เน้นความสดใส ก็จะเป็นแนวในวันว่างๆ อยู่บ้าน แต่ก็ยังไม่มีใครมาอยู่ด้วย เลยทำให้คิดถึงเขาขึ้นมา สุดท้ายเป็นลุค Natural อันนี้จะเป็นลุคง่ายๆ แนวมู้ดแอนด์โทน มีการนั่งดูวิวดูหน้าต่าง ดูฝนตก สื่อถึงความเหงาที่มีอยู่ สำหรับเพลงนี้เป็นซิงเกิลที่พีภูมิใจมากครับ รู้สึกดีใจที่ได้ร่วมงานกับพี่ๆ ทุกคน ทั้งทีมทำเพลง และทีมเอ็มวี สุดท้ายก็ขอฝากซิงเกิลและเอ็มวีเพลง It’s Okay Not To Be Alright ด้วยนะครับ ติดตามชมได้ทาง Youtube : Nadao Music และติดตามฟังเพลงนี้ได้ทาง คลื่นวิทยุต่างๆ และ Streaming ทุกช่องทาง ขอบคุณครับ”
#PPKrit_DebutSingle
#ItsOkayNotToBeAlright
#NadaoMusic