ถ้าคุณ ชอบฟังเพลงหรือมีไลฟ์สไตล์แบบแหกขนบ คนทั่วไปแบบ “อินดี้สไตล์” “Cat Radio” จะต้องเป็นชื่อที่อยู่ในชีวิตคุณแน่นอน เพลงแปลกๆ นอกกระแส คอนเสิร์ต ระดับ Festival ที่เราจะได้ฟังดนตรีที่ใหม่ หลากหลาย รวมถึงซื้อของที่ระลึกแบบ Exclusive จากตัวศิลปินเอง ที่กล่าวมา เหล่านี้อาจจะเป็นชีวิตประจำวันของชาวอินดี้ แต่ Cat คงไม่เกิดขึ้น ถ้าไม่มี “Fat” ปูรากฐานไว้ให้
Fat Radio และ Fat Fest คือหมุดหมายแรกของคัลเจอร์อินดี้ ที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด ที่นี่แจ้งเกิดศิลปินแนวหน้าของบ้านเรามากมาย ในทุกสไตล์ดนตรีด้วย มีเรื่องราวเกิดขึ้นกับคำว่า Fat Fest และคอนเสิร์ตครั้งนี้จะเป็นการ นำวันเวลา จากอดีต และ ปัจจุบัน มาเชื่อมต่อเป็นจักรวาลเดียวกัน โดยใช้ชื่อว่า “Fat Cat Concert” ภายใต้การนำของ จ๋อง พงศ์นรินทร์ อุลิศ คนดี คนเดิม ซึ่งจะมาเล่าให้เราฟังถึงที่มาที่ไปของงานนี้ และบรรยากาศของ Fat เคยเกิดอะไรขึ้นบ้าง เอาล่ะมาลุยกัน
ที่มาที่ไป ของ Fat Cat
จ๋อง : จะเอาแบบไหนเอาแบบจริงจัง หรือให้ดูมีสตอรี่ (หัวเราะ) ถ้าแบบจริงจังก็คือเราทำ Fat Radio แล้วต่อมาเราก็ทำ Cat Radio สิ่งที่เราทำเหมือนเดิมคือ เปิดเพลงใหม่ จนเราไม่รู้ว่า จริงๆ อะไรคือเพลงใหม่ พฤติกรรมคนฟังเปลี่ยนไป เขาก็ไปฟัง Streaming กันหมด โอเค อันนี้ก็เรื่องนึง แต่ในขณะที่เรารู้สึกว่า ยังมีเพื่อน พี่ น้อง เราที่ทำเพลงโคตรเจ๋งเลย แต่เพลงของเขาถูกเปิดน้อยลง เราเปิดเพลงให้คนอายุ 15 วันนี้ฟัง ไม่ใช่ 35 ซึ่งเพลงเหล่านั้นมันถูกละเลย คราวนี้ศิลปินเหล่านี้ บางคนยังทำงานกันอยู่ เรายังคิดถึงอยู่ แต่พวกเค้าไม่มีพื้นที่ให้ Perform หรือไม่มีพื้นที่ในการเปิดเพลงมากพอ ก็เลยรู้สึกว่า งั้นเราจัดงานแบบนี้ดูบ้างไหม อยากดูแลศิลปินกลุ่มนี้ที่เมื่อก่อนคือพระเอกของเรา เพราะคนที่ฟัง Fat ตอนนั้น ก็อาจจะไม่ใช่คงฟัง Cat แล้วนะ แฟนเพลงคนละกลุ่มกัน แล้วจะให้คนกลุ่มนั้นไปงาน Cat ก็คงเบียดกับเด็กๆ ไม่ไหวแล้ว อย่างงานนี้ที่จัดหลายคนดีใจที่มีเก้าอี้ เมื่อก่อนคงด่า (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นทั้งตัวคนฟัง ทั้งตัวศิลปินเอง เราเลยอยากให้มาเจอกัน โดยไม่ต้องคิดอะไรให้ซับซ้อนวุ่นวาย ซึ่งคิดออกเมื่อเดือนที่แล้ว (หัวเราะ) อันนี้คือความจริง 80 เปอร์เซ็นต์
แล้วความจริงทั้งหมดล่ะครับ
จ๋อง : ถ้าเอา 100 เปอร์เซ็นต์ต้องโทษไอ้โอ๋ Styrene Jungle เพราะตอนนั้นจะทำโปรเจ็กต์นึง กับคนอื่น แล้วไปชวน Futon มา ปรากฏงานนั้นแคนเซิล ไอ้โอ๋ เลยบอกพี่รับผิดชอบหนูด้วย (หัวเราะ) อุตส่าห์ไปรวมมาจนได้ แต่ละคนอยู่ต่างประเทศ ลืมไปแล้วว่าเล่นดนตรีได้ (หัวเราะ) งั้นเราก็ต้องรับผิดชอบมัน (หัวเราะ) ก็รวมกับเมื่อกี้ 80 เปอร์เซ็นต์ก็กลายเป็นความจริง 100 เปอร์เซ็นต์ (หัวเราะ)
ที่มาชื่องาน Fat Cat
จ๋อง : ไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งครับ แค่เอาชื่อมารวมกันนี่แหละ (หัวเราะ)
แนวทางการเลือกศิลปิน
จ๋อง : ก็เอาคนที่ว่าง ที่สามารถมาในวันที่เราอยากจัดได้ เป็นหลัก (หัวเราะ) อ้าวก็ใช่เปล่าล่ะ เราเอามาทุกคนที่ชอบไม่ได้หรอก เป็นไปไม่ได้ หลักการก็เป็นแบบนั้น เอาง่ายอย่างของ ตุลย์ เราอยากได้ อะไรจ๊ะ / Siam Secret Service / อพาร์ตเมนต์คุณป้า ให้อยู่ในโชว์เดียวกัน แต่สมาชิกบางคนก็ติดทำอย่างอื่นไปแล้ว มาไม่ได้ ก็เลย ต้องให้พี่ ตุลย์มาเป็น DJ อะไรแบบนี้
ความรู้สึกของคนที่ เคยร่วมงาน วันนี้กลายเป็นไอดอลกันหมด
จ๋อง : ผมว่าทุกคนมีความสามารถของเขาเอง ไอ้เรื่องที่คนเหล่านี้เดินทางมาได้ไกล ก็เป็นเรื่องที่เกิดจากพวกเขาเอง ในแง่เรา เราเห็นว่ารู้สึกที่ดี ที่ให้โอกาสเท่านั้นเอง ผมว่าเราไม่ได้ผลักดันอะไรใครเลยนะ เราก็เป็นแค่คนที่เชิญมา ก็ดีใจในฐานะแฟนเพลง แล้วพอมีคนชอบเหมือนเราก็ดีจังเลย เท่านั้นเอง
ฝากคอนเสิร์ต
จ๋อง : งานจัดที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ประตูเปิดเที่ยง ไปเช็กได้ที่ App The Concert มาดูกันให้ได้ คุณอาจจะไม่ใช่วัยรุ่นเหมือนเดิม แต่น่าจะมีสักวัน 2 วัน ในชีวิตที่กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม กลับมาเจอศิลปินที่คุณชอบ คนที่คุณเคยเกาะรั้วดู กลับมาเจอพวกเขาอีกครั้ง ในงาน Fat Cat ครับ
“Fat Fact” เรื่องเล่าของ Fat ก่อนดู Fat Cat
คิว Flure : ตอนมางาน Fat ครั้งแรกผมอายุ 18 ตอนนั้นผมมาดู พี่โจ้ Pause มาดู หนังสือทำมือ งานนี้ก็เหมือนเรากลับไปเป็นแฟนเพลง และได้เป็นนักดนตรีนักร้องด้วย สมัยที่เราได้เล่น Fat Fest ยังเป็นขื่อ Teddy And His Band อยู่เลย ยังไม่มี Flure
จีน กษิดิศ : รอบนี้พี่มาในร่าง จีน Futon ตอนแรกเรารู้สึกว่ามันจะครบ 20 ปี Futon ก็เหมือนจะต้องมีอะไรเกิดขึ้น จริงๆ ตอนที่ Futon เล่นเป็น Fat Fest 3 ตอนแรก โอ๋ ยังไม่อยู่ Futon ยังมาดูเราอยู่เลย แล้วหลังจากนั้นค่อยได้มาร่วมงานกัน รอบนี้จะปลุกวิญญาณคุณ จีน Futon ขึ้นมา
จ๋อง : ตอนนั้นเราเคยจัดคอนเสิร์ตของวงอื่น แต่ใช้ชื่อ Fat แต่มาสะกิดใจตรงที่เราอยากรู้ว่าจริงๆ แล้ว คนที่มา เขามาดูศิลปิน หรือมาเพราะ Fat เป็นแฟนเราจริงๆ ก่อนที่จะมาที่ โรงงานยาสูบเก่า ที่จะเป็น สถานที่จัดงาน ตอนนั้น เคยจัดงานเล็กๆ ที่นี่ ชื่อ เล็ก ชิ้น สด จัด Sepia ก็รู้สึกว่า เออ เท่ดี จนพอเราจะจัด Fat Fest เดดไลน์มาแล้ว พี่เต็ด ยุทธนา บุญอ้อม ก็ถามว่าจะจัดที่ไหน ผมก็บอกว่า โรงงานยาสูบเก่าครับ โดยที่ไม่รู้ว่า ให้จัดหรือเปล่าด้วยนะ (หัวเราะ) ผมบอกว่า ตรงนี้เดินทางยาก ต้องเป็นแฟนเราจริงๆ ถึงจะรู้จัก มีหนังสือทำมือ หนังสั้น ตอนนั้นถ้าคนที่รู้จักต้องชอบเราจริงๆ แล้วก็มีคนมา ซึ่งพอมาคิดวันนี้ก็เหนื่อยมาก เอาที่เย็นๆ ก็ไม่ได้ มึงจะเอาเท่ไปไหน (หัวเราะ) ซึ่งตอนนั้นก็มี A Day มาเปิดตัวงาน Fat นี่แหละ
ตุลย์ : ครั้งแรกของผมก็วง อะไรจ๊ะ กับ Siam Secret Service ยังไม่มี อพาร์ตเมนต์คุณป้า ก็ร้อนมาก (หัวเราะ) แต่เราก็ได้เจอเพื่อนใหม่ ก็รู้สึกว่า เออ ของที่ระลึกที่เราทำมาก็ขายได้นะ ทำกันเอง ได้พบคนฟังจริงๆ ส่วนหลังเวที ครั้งที่ 1 ไม่เท่าไหร่ แต่พอ 2, 3, 4 ก็หนักแล้ว ปีแรก มีดาจิม / Kidnappers / โจอี้ บอย / พี่โอ๋ ธีร์ ไชยเดช
เท็ดดี้ Flure : ตอนนั้น ผมมาดู Stylish Nonsense พี่ป๊อก โคตรเท่ ยังกะ คีนู รีฟ เมืองไทย แล้วห้อย เบส พี่จูนก็ยังเล่นกลอง ยังไม่เป็นโปรเฟสเซอร์ขนาดนี้ เป็นวงที่แปลกมากไม่เคยได้ยินมาก่อน สีสันมาก แต่วงเรากับครั้งแรกคือ ไม่รู้จักกันเลย ต่างคนต่างมา