Blackbeans วงดนตรีที่ประกอบด้วย 4 สมาชิก บูม พีรวิทย์ จิตการุณ นักร้องนำ / ทาม นฤเบศร์ พัวพันบุญ กีตาร์ / เกม นันทกร พันธ์วุ้น เบส / พีท นลธวัช บัวเผื่อน กลอง นี่คือชื่อวงดนตรีที่กำลังเป็นที่จับตามอง การสร้างชื่อเสียงขึ้นมาด้วยเพลงของตัวเอง ที่มาของเพลงเขามันดูเรียบง่ายมาก เช่นเดียวกับดนตรีที่เข้าถึงง่าย ฟังง่าย แต่มีเสน่ห์อย่างน่าแปลกประหลาด จนสร้างฐานแฟนคลับขึ้นมามากขึ้นอย่างน่าสนใจ ในหลายเทศกาลดนตรีเมื่อมีชื่อวงนี้เราจะเห็นวัยรุ่นจำนวนมาก เข้าไปจับจองพื้นที่เพื่อฟังเพลงของพวกเค้า สำหรับคนที่อาจจะยังไม่รู้จัก งั้นเรามาทำความรู้จักกับพวกเขากันเลย
จุดเริ่มต้น
Blackbeans : วงเราจริงๆ แล้วเป็นวงประกวดของโรงเรียน เราก็ทำแบบนั้นอยู่ 4 ปี กว่าที่จะทำเพลงแรกขึ้นมา ถ้าใครเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี ช่วงปี 56-58 ก็น่าจะรู้จักพวกเรา ซึ่งเมื่อก่อนเราเป็นวงร็อคมากๆ ไม่เหมือนตอนนี้ (หัวเราะ) ตอนแรกมี “ทาม” กับ “พีท” ก่อน ส่วน “บูม” กับ “เกม” จะมาทีหลัง เราเป็นวงที่ดังในกะลามากๆ (หัวเราะ) วงเราเป็นวงตัวแทนโรงเรียน ประกวดตามงานต่างๆ แต่ไม่เคยได้รางวัลเลย (หัวเราะ) คือเวลาประกวดตัวแทนโรงเรียนอื่นเขาจะเล่นแจ๊ซๆ ป็อป ของเรานี่ตูมๆๆๆ (หัวเราะ) ซัดอย่างเดียว กรรมการคงตกใจ วงเราตอนแรกมี 8 คน มีใครก็ชวนหมด มาหารค่าห้องซ้อม (หัวเราะ) จนพอขึ้น ม.ปลาย ทุกคนแยกกันไป เหลือ พีท กับ ทาม 2 คน แล้วค่อยมาเจอ บูม กับ เกม ซึ่งตอนแรกนักร้องเราเป็นผู้หญิงด้วย คราวนี้ ตัวบูมกับเกม จะห่างจากทามกับพีท 2 ปี พอทามกับพีทจบมัธยม คราวนี้เหงาเลย เหลือ 2 คน Blackbeans ปิดตำนาน (หัวเราะ) แล้วบูมก็มีวงของเขานะ แต่ทาม ใช้วิธีตะล่อม โดยให้เกมไปบอกให้ลองมาทำ Cover เล่นๆ กันไหม แล้วก็มาอยู่ด้วยกันเลย
สู่โลกของการทำเพลง
Blackbeans : เริ่มจาก ทาม เป็นคนชอบเขียนเพลง ตอนนั้นเขียนเพลง Moon มา คิดแค่ว่าตอนนั้นถ้าเรามีผลงานของตัวเองจะเป็นอย่างไร จะต่อยอดยังไงได้ เราไม่รู้สเตปต่อไปว่าต้องทำยังไง ความรู้ในการอัดเพลงก็เป็นศูนย์ ก็ต้องขอบคุณครู Youtube มากๆ ที่ทำให้มีทุกวันนี้ (หัวเราะ) อ๋อ ลืม ตอนนั้นมีพี่นัท Old Story Project อีกคนมาช่วยเราโปรดิวซ์ มาสอนทามทำโปรแกรมต่างๆ ต้องขอบคุณพี่นัทด้วยครับ
Moon จุดเริ่มของการพลิกชะตา
Blackbeans : เอาจริงๆ เพลงนี้อย่าเรียกว่าทำเพลงเลยครับ เรียกว่าพวกเราเอาเสียงมาซ้อนๆ ดีกว่า (หัวเราะ) เรามีเมโลดี้ มีท่อนต่าง มีเนื้อร้อง ก็พยายามซ้อนดนตรีไปเรื่อยๆ ให้อยู่กับร่องกับรอย เรามีแค่ความเชื่อ ความฝัน อยากมีเพลงของตัวเอง แล้วก็แบบอยากไปทัวร์สักครั้งนึงในชีวิต อยากนั่งรถตู้นานๆ ตอนแรกฝันไว้แบบนั้น (หัวเราะ) พอปล่อยเพลง Moon ออกไป ตอนแรกมีประมาณ 900 วิว แล้วพีทตอนฟังเดโม่ครั้งแรก ด่าทามด้วย เพลงเหี้..อะไรเนี่ย (หัวเราะ) อย่างที่เราเล่าไปว่าวงเราร็อคมากๆ พีท เขายังนึกเลยว่านี่แค่เพลงช้าใช่ไหม เดี๋ยวคงมีเพลงร็อคๆ แหละ (หัวเราะ) ทามก็ตามน้ำด้วย บอกใช่ๆ นี่แค่เพลงช้า (หัวเราะ) ตะล่อมอีกแล้ว กลายเป็นว่า 5 เพลงแรกมา ไม่มีเพลงเร็วเลย พีทก็รอต่อไป (หัวเราะ) จนทุกวันนี้ก็ยังรอเพลงร็อคอยู่ (หัวเราะ) ตอนนั้นเราไม่มีคาแร็กเตอร์วง เสียงร้อง สไตล์การร้องของบูม ก็ไม่ได้เป็นแบบทุกวันนี้ ต้องมาดีไซน์การร้องใหม่เพื่อให้เข้ากับเพลงนี้ จนกลายเป็นการได้เอกลักษณ์แบบทุกวันนี้
Dance With Me เดินทางต่อในชื่อ Blackbeans
Blackbeans : เพลงนี้ก็ไม่ซับซ้อนเราทำงานแบบเดิมเลย วาง 4 คอร์ด ประกอบเป็นเพลง พูดจริงๆ ว่า วงเราไม่มีพรสวรรค์เลย พรแสวงก็ไม่มี (หัวเราะ) แต่เราเชื่อมั่นกัน จาก Moon คนฟังหลักร้อย เพลงนี้ก็เพิ่มขึ้นเป็นหลักพัน แค่คนแชร์เราก็ดีใจ
ปาฏิหาริย์จากเพลง Wish
Blackbeans : สำหรับวงพวกผม ผมเรียกมันว่าปรากฏการณ์ จำได้ว่าตื่นมาเช้าแรก 3,000 มาอีกที 6,000 แล้วขึ้นเป็น 9,000 พอขึ้นเป็นแสน ก็ดีใจมากๆ แล้ว ทุกอย่างเพลงนี้ยังเหมือนเดิม มันเรียบง่ายมากๆ ใช้ Plugin อัด ไม่ได้มีแนวคิดในเนื้อร้อง แต่จะบอกว่าไม่มีเลยก็คงมาได้ เพราะตอนเราเลือกซาวด์ เลือกเครื่องดนตรี เรารู้สึก.. มันมีเรื่องซาวด์กับเมโลดี้ ที่หลายคนก็บอกว่ารู้จักพวกเราจากตรงนี้ แต่เราก็ไม่ได้คาดหวังเลยจริงๆ เกมยังบอกเลยว่าเพลงนี้เป็นเพลงไซด์บีด้วยซ้ำ แล้วเพลงบรรยากาศล่องลอยแบบนี้ พวกเราเองก็ไม่ได้ฟังนะ มันมาของมันเอง สำหรับเพลงนี้ แน่นอนพอมันประสบความสำเร็จ เราไม่ได้ตั้งตัว ไม่ได้วางแผนด้วยว่าจากนี้จะทำอะไร แต่วันนี้พอเพลงนี้มาถึง 100 ล้านก็ดีใจมากๆ ย้อนไปไม่มีใครในวงจะคิดว่ามาขนาดนี้เลย ต้องขอบคุณแฟนๆ ทุกคนครับ
ทะเลาะกันครั้งแรก
Blackbeans : ตอนทำเพลง This Night พีทกับทาม เขาทำเพลงอยู่ด้วยกัน คราวนี้ สมัยก่อน พีทจะเป็นคนที่ยึดติดกับอะไรที่เขาชอบมาก ถ้าเขาคิดว่าดีแล้ว เขาก็ไม่อยากจะให้เปลี่ยน แล้วเพลงนี้เป็นเพลงอะคูสติก เข้ากับเสียงบูม พีทเขามองว่าเพลงนี้ไม่มีกลองจะดีกว่า เลยเอาแทร็คกลองออกไป แต่คราวนี้ พอทำเสร็จปรากฏว่า มีกลองในเพลง อ้าว หมัดแรกมาแล้ว (หัวเราะ) ก็ลงกลุ่มไลน์ทะเลาะกันเลย งั้นให้ผมไปทำเพลงด้วยทำไม ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้น และบานปลายมาถึงวันนี้ (หัวเราะ) แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว จริงๆ มันเป็นเรื่องที่ทุกวงต้องผ่าน มันต้องมีปัญหาในกระบวนการทำงาน ทำให้เราคุยกันได้มากขึ้น สนิทใจขึ้นครับ
ชีวิตการออกทัวร์
Blackbeans : โอ้ย ทาม เมารถทุกงาน (หัวเราะ) เข็ดเลย งานแรกนั่งไปเพชรบูรณ์ นั่งไปประมาณ 5 คน ช่วงบุกเบิก กับตากล้องอีกคน แล้วเราไม่รู้เรื่องค่าตัวด้วยได้มาประมาณ 4,000 หารกันตกคนละ 700 เกมซื้อสายเบสไปชุดนึง 750 เข้าเนื้ออีก (หัวเราะ) บวกค่าแท็กซี่อีก แต่สนุกนะ ประทับใจมาก คนร้องเพลงเราได้ สนุกมาก เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นผู้คนร้องเพลงเราจริงๆ แฮปปี้จริงๆ มันทำให้เรามีแรงกลับไปทำผลงานต่อ จนกลายเป็นมีเพลงต่อไปเรื่อยๆ
การเติบโต
Blackbeans : พวกเราคิดว่า เราเป็นเหมือนเดิมนะ ไม่ได้เป็นศิลปินอะไรขนาดนั้น เพียงแต่ว่าในขณะที่เรายังทำงานเต็มที่เหมือนเดิม แต่ประสบการณ์มากขึ้น การใส่ใจในรายละเอียดก็เพิ่มมากขึ้นตามมา
กับชื่อเพลง ภาษาอังกฤษ
Blackbeans : เพราะเราอยากให้พี่ๆ น้องๆ ชาวต่างชาติมาฟังด้วย เราพยายามแต่งทับศัพท์ที่มันอ่านง่าย แล้วก็สอดคล้องกับเนื้อเพลงของเรา เราพยายามที่จะทำแบบนี้อยู่ตลอด เพราะฉะนั้นจะไม่มีชื่อเพลงไหนยากเลย ชื่อเพลงต้องง่ายๆ ซึ่งก็มีแฟนๆ ชาวต่างชาติจริงๆ เพราะเขานึกว่าเป็นเพลงสากล (ยิ้ม)
Inspiration จากวงชั้นนำ
Blackbeans : ถ้าเพื่อนๆ สังเกตจะเห็นว่าอัลบั้มของเราจะมี Theme ของอัลบั้มชัดเจน ซึ่งเราได้อิทธิพลมาจาก Coldplay เพราะเราสังเกตว่า Coldplay มีเพลงง่ายๆ ไม่ได้ซับซ้อน เหมือนจะไม่มีอะไร แต่ในความเรียบง่ายนั้น มันมีรายละเอียดที่น่าสนใจอยู่ แล้วอย่างวงเขา ถ้าดูดีๆ เขาก็เหมือนไม่ได้ทำอะไรที่มันดูยิ่งใหญ่มาก แต่สถานะวงเขายิ่งใหญ่มาก ซึ่งทำให้เราเห็น Destination ของเรา เราอยากไปในเส้นทางแบบนั้น ธรรมดาเป็นสิ่งพิเศษ
คอนเสิร์ตครั้งแรก
Blackbeans : เป็นคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม Flowers On Earth ถึงจะเป็นคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม แต่เราไม่ได้มองว่าเป็นคอนเสิร์ตเล็กเลย เราตื่นเต้นมาก มีคนดูกว่า 700 คน เราเดินขึ้นไปแบบเกร็งๆ มันสั่นมาก ก่อนงานคืนนึง เกมนอนไม่หลับ ก็เลยชวนพีท ไปดูเขาเตรียมงาน ไปๆ มาๆ อะดรีนาลีน มันหลั่งไปช่วยเขายกของซะงั้น (หัวเราะ) แล้วก่อนงานเราไปเล่นคอนเสิร์ตต่างจังหวัด ธามโดนไฟดูดบนเวที เกือบไม่ได้มาเล่นแล้ว (หัวเราะ) เทคนิเชียนเราก็นึกว่า เราฟิล ยกนิ้วให้ (หัวเราะ) เกือบสิ้นชื่อ ดังนั้นวานผู้จัดอย่าลืมลงสายกราวด์นะครับ (ยิ้ม)
จบ Phase แรก สู่ Phase 2
Blackbeans : จากคอนเสิร์ตนั้นทำให้เราได้ ประสบการณ์มากขึ้น ทุกอย่างพร้อมมากขึ้น เราสามารถปิดประตูบานแรกได้แล้ว หลังจากนั้นเราก็เริ่มทำบริษัท ซึ่ง Phase 2 เราเริ่มด้วยเพลง Perfect ซึ่งแนวทางการทำดนตรีของเราไม่ได้ตายตัว แต่ถึงจะบอกแบบนั้น เราก็จะมี Element บางอย่าง ที่เป็น Blackbeans อยู่ดี ซึ่งต่อจากนี้อาจจะมีเพลง บางเพลงที่แนวทางต่างกันออกไป อย่าง Perfect แนวก็ต่างจากที่เราเคยทำ ซึ่งเป็นเพลงเปิดอัลบั้มที่ 3 ของเรา อัลบั้มนี้มีร็อคสมใจพีทแน่ (หัวเราะ) สำหรับ Perfect จะเป็น Interlude ล่าสุด ก็ปล่อย How Are You ไปแล้ว ซึ่งเป็นเพลงที่เราชอบกันมาก ก็จะเป็น Blackbeans เหมือนเดิม ซึ่งหลังจากนี้ มีเพลงพร้อมเสิร์ฟอยู่แล้ว เตรียมรอฟังได้เลย
ค่ายเพลงกับ Blackbeans
Blackbeans : ใจจริงๆ พวกผมอยากเข้าค่ายนะครับ อันนี้พูดตรงๆ เลย การทำงานเองในทุกขั้นตอนมันเหนื่อยมาก ถ้าไม่มีความมุ่งมั่นกับวินัยมากพอ สำหรับพวกเรามองว่าวงเรายังตัวเล็กอยู่ ยังต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ แล้วก็ยังไม่เหมาะกับการอยู่ค่ายเพลง แต่เราขอบอกว่าในสักวันนึง เราจะต้องมีค่ายแน่นอนครับ