เพื่อเป็นการแสดงความยินดีกับซิงเกิลใหม่ “Cheat Code” จาก “Lukas Graham” ศิลปินเจ้าของเพลงฮิต “7 Years” ที่พ่วงด้วยดีกรีรางวัลผู้เข้าชิงรางวัลแกรมมี่และเจ้าของยอดขายระดับ Multi-Platinum วันนี้ The Guitar Mag จะพาทุกคนไปพูดคุยถึงเบื้องหลังความเป็นมาของผลงานเพลงชิ้นใหม่ พร้อมทั้งความประทับใจต่อประเทศไทยเมื่อครั้งที่เขามาทัวร์เมื่อปี 2019!
แนะนำตัวให้พวกเราได้รู้จักหน่อย
Lukas Graham : สวัสดีครับ ผม “Lukas Graham” ผมโตมากับชีวิตที่ค่อนข้างลำบากและค่อนข้างที่จะแตกต่างกว่าคนทั่วไป แต่ผมก็ได้เริ่มร้องเพลงในช่วงที่เรียนและได้เขียนเพลงแร็ปและแนวอื่นๆ ด้วย ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ได้เจอเพื่อนที่ผมได้ทำเพลงด้วยกัน คนที่เป็นเพื่อนสมัยเรียน ม.ปลาย เมื่อตอนอายุ 15 และยังเป็นมือกลองในแบนด์ของผมตอนนี้ด้วย ก็คือมาร์ตนั่นเอง จนตอนนี้ผ่านมา 20 ปีแล้ว พวกเราก็ยังอยู่ด้วยกัน ทำเพลงด้วยกัน ซึ่งผมว่านี่เป็นเรื่องราวที่เจ๋งดีนะ และตอนนี้ผมเป็นคุณพ่อลูกสอง และกำลังจะ 3 ในเร็วๆ นี้ด้วยล่ะ แต่สิ่งที่สำคัญเกี่ยวกับตัวผมจริงๆ ผมว่าคือการที่ผมชอบที่จะเขียนเพลงมาจากเรื่องราวของตัวเอง บางครั้งก็เขียนออกมาเป็นบทกวี และยังชอบที่ได้ร้องสดให้กับผู้คนได้ฟัง เพราะผมรู้สึกดีมากๆ เวลาได้เห็นทุกคนเอนจอยไปกับเพลงของผม ไม่ว่าจะร้องตาม หัวเราะ เต้น หรือแม้กระทั่งร้องไห้ก็ตาม ผมทำเพลงเพื่อสิ่งนี้แหละ
ลองนิยามตัวเองใน 3 คำ
Lukas Graham : ใจกว้าง สงบ และ แข็งแกร่ง (ยิ้ม) ผมรู้สึกว่าเพราะผมต้องออกทัวร์บ่อยๆ เลยต้องประคับประคองความความเหนื่อยล้านั้นให้ได้ดีเพราะนี่เป็นชีวิตของศิลปินที่ต้องเจอจริงๆ ซึ่งผมว่ามันยากนะ
ศิลปินทุกคนจะมีขั้นตอนการทำเพลงเป็นของตัวเอง แล้วของคุณล่ะเป็นแบบไหน
Lukas Graham : จริงๆ ผมเขียนเพลงในหลากหลายวิธีมาก แต่ด้วยความที่ผมเล่นเครื่องดนตรีไม่เป็นสักอย่าง ผมเลยแต่งเพลงโดยการเขียนแค่เนื้อหรือเมโลดี้ขึ้นมา ส่วนมากเพลงของผมเลยจะเริ่มต้นด้วนเนื้อเพลงหรือบทกลอนขึ้นมาก่อน และค่อยทำเพลงต่อจากนั้น แต่ก็มีบางทีที่ได้เป็นเมโลดี้ขึ้นมาก่อน อย่างเช่นกับเพลง “7 Years” (เริ่มฮัมเมโลดี้) ที่อยู่ๆ เพื่อนผมก็ฮัมมันออกมา ตอนนั้นผมก็รีบเดินออกมาจากห้องน้ำอย่างไว (พร้อมร้องเนื้อเพลงท่อน “Once I was 7 Years Old”) และเพื่อนผมก็บอกกลับว่า “นี่เจ๋งนะ ลองร้องต่อสิ” นั่นแหละ บางทีก็เริ่มมาจากดนตรีก่อน หรือบางทีก็มาจากไอเดียเพื่อนของผม และพวกเราถึงมาช่วย ๆ กันปั้นต่อ
เรื่องราวของซิงเกิลใหม่ “Cheat Code” เป็นมายังไง
Lukas Graham : จริงๆ เพลงนี้ผมทำให้มันเข้าใจง่ายนะ ผมแค่ต้องการจะสื่อถึงการทำให้ความสัมพันธ์ที่อยู่ด้วยกันมาอย่างยาวนานยังคงมีความมั่นคงอยู่ในนั้น เหมือนกับผมที่ใช้ชีวิตกับภรรยามานานแล้วเหมือนกัน ซึ่งผมว่ามันสำคัญนะที่คู่รักควรจะนึกถึงจุดเริ่มต้นในความรักของพวกเรา ความใกล้ชิด ที่ไม่ใช่แม้แต่ทางกาย แต่รวมไปถึงทางความรู้สึกด้วย หรือไม่ใช่แม้แต่ดอกไม้ที่มีความหมาย อย่างผมก็ตื่นมาทำกาแฟให้ภรรยาผมในทุกเช้า แบบนี้เธอก็มีความสุขเหมือนกันนะ หรือบางทีที่ผมไม่ได้ไปทัวร์คอนเสิร์ตผมก็ดูแลลูกๆ เอง เพื่อที่ภรรยาจะได้มีเวลาให้ตัวเองบ้าง โดยรวมเพลงนี้ก็คงเปรียบเหมือนความสัมพันธ์ที่ไม่หวือหวาแต่มีความสุข
นิยามแนวเพลงของตัวเองไว้ว่ายังไง
Lukas Graham : มันเป็นความใหม่แต่ก็ไม่เก่า มันชวนให้ผมนึกถึงเพลงที่ผมเคยทำก่อนหน้านี้นะ แต่ตอนนี้น่าจะเป็นแนวที่ใหม่กว่านั้น แบบที่ผมไม่เคยทำ อาจจะพูดง่ายๆ ว่าเป็นแนวป็อปที่ผสมร็อคอะไรประมาณนั้น และผมก็คิดว่ามันน่าจะสนุกมากนะถ้าผมมีโอกาสได้เล่นสดกับเพื่อน ๆ ในแบนด์ของผม หรือได้เล่นในเฟสติวัลด้วย
เราเห็นว่าคุณเคยมาแสดงคอนเสิร์ตที่ไทยเมื่อปี 2019 ด้วย นั่นใช่การมาไทยครั้งแรกของคุณหรือเปล่า และอะไรที่ชอบที่สุดเกี่ยวกับประเทศไทย
Lukas Graham : จริงๆ ตอนนั้นไม่ใช่ครั้ังแรกของผมที่ได้มาไทย ผมเคยมาไทยครั้งแรกเมื่อปี 2017 ที่เชียงใหม่ น่าจะสองสัปดาห์ได้ มาเยี่ยมเพื่อนของผมที่เค้ามสร้างครอบครัวที่นี่ ซึ่งผมเอนจอยอาหารไทยมากๆ และวัฒนธรรมด้วย ผมว่าคนไทยเฟรนลี่และก็สุภาพมากๆ เพราะผมคิดว่าผู้คนที่บ้านเกิดผมออกจะแข็งกระด้างไปหน่อย แล้วก็อากาศประเทศไทยก็ร้อนมากๆ ด้วย แล้วจริงๆ ผมว่าผมทานอาหารไทยทุกวันเลยก็ได้นะ จนตอนที่ผมมาเล่นคอนเสิร์ตเมื่อปี 2019 ผมได้เปลี่ยนเนื้อร้องเป็น “When you love tomyum, you open up your heart” และผมก็ได้ลองกินของแปลกๆ ด้วย ซึ่งก็ดีนะ ได้ลองอะไรที่บ้านตัวเองไม่มี ว่าแล้วก็อยากกลับไป South East Asia อีกเลย
มีอะไรที่พวกเราควรตั้งตารอสำหรับปีนี้มั้ย
Lukas Graham : ตอนนี้ผมกำลังทำเพลงสำหรับช่วงคริสต์มาสอยู่ ซึ่งจะมีศิลปินหญิงมาร่วมฟีทเจอร์ริ่งด้วย แต่ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงตัดสินใจ และก็หลังจาก “Cheat Code” ปล่อยออกมาแล้ว ผมหวังว่าจะได้ปล่อยเพลงรักอีกสักเพลง ที่มีจังหวะสนุก ๆ มากกว่า “Cheat Code” สักหน่อย และหวังว่าจะมีอัลบั้มเต็มในปีหน้า พร้อมทั้งออกทัวร์คอนเสิร์ตใน South East Asia ด้วย จริงๆ ผมประทับใจแฟนๆ ชาวไทยมากเลย ถึงแม้จะมีบางคนที่เค้าสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่เค้ากลับร้องเพลงของผมได้ ซึ่งนั่นมันทำให้ผมตื้นตันมาก
Lukas Graham ในปี 2024 จะแตกต่างกับ Lukas Graham ในปีที่ผ่านมามั้ย
Lukas Graham : สำหรับผม อัลบั้มก่อนหน้านี้ “Pink” มันจบแบบน่าเบื่อไปหน่อย และจริงๆ ในครั้งนี้ผมได้ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์คนใหม่ที่เก่งมากๆ ดังนั้นผมเลยอยากจะทำให้อัลบั้มใหม่ให้ตรงข้ามกันไปเลย ทั้งดนตรีและเนื้อเพลง แม้กระทั่งวิธีการอัดเสียงด้วยก็ตาม ผมอยากจะทำให้มันน่าสนใจขึ้นแหละ เช่นเพิ่ม elements อื่นๆ เข้าไปในดนตรีด้วย
ในปีนี้เราคาดหวังที่จะได้เจอคุณในเอเชีนทัวร์หรือคอนเสิร์ตที่ไทยได้มั้ย
Lukas Graham : ในปีนี้อาจจะต้องบอกว่ายากนิดนึง เพราะภรรยาผมมีกำหนดคลอดในเดือนกันยายนนี้ เพราะงั้นผมคงจะต้องห่างจากงานตัวเองไปสักพักนึง เพื่อที่จะได้มีเวลาอยู่กับลูกๆ และครอบครัวได้อย่างเต็มที่ แต่ก็หวังว่าจะได้กลับมาในปีหน้า เพราะผมคิดถึงบรรยากาศทัวร์คอนเสิร์ตมากจริงๆ
มีอะไรอยากบอกถึงแฟนๆ ชาวไทยมั้ย
Lukas Graham : ขอบคุณครับ (พูดไทย) ผมรู้สึกตกใจแต่ก็ประทับใจมากที่มีผู้คนที่ฟังเพลงผมอยู่อีกฝากนึงของโลกใบนี้ มันยากที่จะเชื่อนะ และนี่มันเติมเต็มหัวใจของผมมากจริงๆ
ขอขอบคุณ : คุณน้ำหนึ่ง Universal Music Thailand สำหรับภาพและบทสัมภาษณ์ครับ