นึกถึงคอนเสิร์ต หรือ Festival ใหญ่ๆ ในบ้านเรา ชื่อ Festival อย่าง Big Mountain หรือภาพคอนเสิร์ตใหญ่ของ Bodyslam, Cocktail น่าจะเป็นภาพแรกๆ ที่นักล่าอาณานิคมคอนเสิร์ต มักจะนึกถึง ซึ่งใน 1 คอนเสิร์ต นอกจากตัวศิลปิน ก็มีผู้เกี่ยวข้องอีกมากมาย ทีมงานที่ชื่อว่า “GAYRAY” คือด่านหน้าสำคัญของงานเหล่านั้น และหลายคนอาจจะไม่ทราบว่า “แม่ทัพ” กองหน้าของทีม GAYRAY จะมี ผู้บัญชาการสาวสวยอย่าง “ป่านแก้ว สัตยาวุฒิพงศ์” เป็นผู้นำในงานนี้ด้วย และนี่เป็นอีกครั้งที่เรากำลังจะมีคอนเสิร์ตดีๆ จากฝีมือของทีม GAYRAY และผู้บัญชาการสาวสวย คนนี้ กับคอนเสิร์ตที่ทุกคนรอคอย กับคอนเสิร์ตใหญ่ของ วง Potato ที่ชื่อว่า “POTATO HEAD CONCERT คอนเสิร์ตในหัวมัน” หลายคนคงจะทราบวันเวลาสถานที่แล้ว แต่กับรายละเอียดเบื้องลึก เบื้องหลัง เราต้องมาฟังจากคำบอกเล่าของเธอคนนี้ พร้อมแล้วมาฟังไปพร้อมๆ กัน
GAYRAY คืออะไร โดยภาพรวม คุณป่านแก้ว ดูแลในส่วนไหนของ GAYRAY
ป่านแก้ว : GAYRAY คือหนึ่งในโปรโมเตอร์ 1 แบรนด์ ภายใต้ GMM Show ซึ่งทีมของเราอยู่มาตั้งแต่ Big Mountain ครั้งที่ 1 แล้วก็ทำมาโดยตลอด Positioning ของเราคือการจัดคอนเสิร์ต และ Music Festival ซึ่ง DNA ของ GAYRAY มันจะมีความซน ความสนุก ความพลิกแพลง แบบที่คนอื่นเขาไม่ทำกัน (หัวเราะ) อยู่ในชิ้นงานต่างๆ ส่วนที่มาของชื่อ GAYRAY ป๋าเต็ดเป็นคนตั้ง ก็มาจากความเป็นเด็กเกเร เด็กหลังห้องที่พร้อมจะสนุกซุกซนกับเรื่องที่นอกเหนือตำรา ก็นิยามแบบเบสิกตรงตัว
ส่วนงานล่าสุดที่เราทำก็ Big Mountain แล้วก็คอนเสิร์ตของ Cocktail ที่ราชมังฯ มีFestivalที่ชื่อ FAAD MUSIC FESTIVAL มีคอนเสิร์ต EveryBodyslam ที่ Impact Arena แล้วก็มีอีกหลายคอนเสิร์ต ซึ่งความต่างของการจัดคอนเสิร์ตกับ Festival อย่างคอนเสิร์ตก็จะง่ายหน่อย สำหรับคนที่ไม่เคยมีคอนเสิร์ตเลยก็จะใส่ตัวตนของศิลปินลงไป แต่ถ้าเคยมีคอนเสิร์ตแล้วก็จะยากหน่อยต้องพลิกแพลงหาลูกเล่นใหม่ๆให้คนดูและศิลปินรู้สึกมีความแปลกใหม่ไม่ซ้ำเดิมหามุมใหม่ๆ ให้น่าสนใจมากขึ้น ส่วนถ้าเป็น Festival อาจจะมีเรื่องของความเหมาะสมของพื้นที่จัดงาน ความต้องการของคนผู้ชมในด้านต่างๆเพิ่มลงไป โจทย์มันจะกว้างกว่า ในส่วนงานของทีมเกเรของป่านเองก็เป็นหัวหน้าทีมดูทั้งหมดเลย คอนเซ็ปต์ ไทม์ไลน์ งบประมาณ ประสาน ให้เกิดเป็นคอนเสิร์ตให้ได้
กับคอนเสิร์ตที่เราจะมาพูดคุยกันวันนี้ คือ “POTATO HEAD CONCERT คอนเสิร์ตในหัวมัน” ที่มา ที่ไป
ป่านแก้ว : จุดเริ่มต้นมาจาก งานคอนเสิร์ต The Gentlemen Live ครั้งแรกเลย ที่มี Bodyslam / Clash / Potato ซึ่งในพาร์ท Potato เขาเรียบเรียงดนตรีใหม่ มีเครื่องเป่า เครื่องสาย ซึ่งส่วนตัวชอบมาก ตั้งแต่วันนั้นก็เลยชวนวงว่าทำคอนเสิร์ตรูปแบบไม่ต้องใหญ่มาก แล้วทำดนตรีให้สนุกแปลกใหม่กันไหม ซึ่งคุยจากตอนนั้น แล้วก็พักเอาไว้ก่อน จนเวลาผ่านไป วงก็พร้อมที่จะทำคอนเสิร์ตนี้ ทางวงเลยโทรมาคุยกับทางเราว่า อยากทำ คอนเสิร์ต Scale ไม่ใหญ่มาก โดยจะเล่าเรื่องราวอีกพาร์ทหนึ่งของชีวิตเค้า เรียบเรียงดนตรีใหม่ เอาเพลงที่ไม่ได้เล่นมานานมาทำ ซึ่งมันเหมาะกับคอนเซ็ปต์ ที่เคยคุยไว้ เพียงแต่ก็ต้องปรับให้เข้ากับชีวิตปัจจุบันของวงหน่อย ซึ่งก็เป็นสารตั้งต้นของการทำคอนเสิร์ต Potato ใน Scale แบบที่เขาไม่เคยทำมาก่อน เล็กลง พิเศษขึ้น เรียบเรียงใหม่ ก็เป็นที่มาของคอนเสิร์ตครั้งนี้ บวกกับกระแสในโซเชียลเรียกร้องว่าอยากให้ POTATO มีคอนเสิร์ตใหญ่ จนในที่สุดก็สมหวัง เราก็เลยเพิ่มเป็น 5 รอบไปเลย ก็น่าจะรองรับแฟนๆ ได้
กับชื่อคอนเสิร์ต POTATO HEAD CONCERT คอนเสิร์ตในหัวมัน ดูเหมือนคิดมาง่ายๆ แต่จริงๆ น่าจะยากพอสมควร เป็นอย่างนั้นมั้ย และสุดท้ายทำไมถึงเคาะชื่อนี้
ป่านแก้ว : ก็หลังจากวางแพลนในปีที่แล้ว คุยสถานที่ เลือกช่วงเวลา เริ่มทำคอนเซ็ปต์ เราก็เริ่มคุยกับวง ก็จะได้ Input จากวงมากขึ้น ก็เลยได้ชื่อคอนเสิร์ตมา เราอยู่ในห้องประชุมกับวง คือเวลาเราฟังศิลปินเล่าว่าอยากให้คอนเสิร์ตเป็นยังไง มันเหมือนกับเราท่องไปในจินตนาการในหัวของเขา ว่าเขาคิดอะไร คราวนี้ก็เลยได้ออกมาเป็นการนำสิ่งที่ศิลปินคิดออกมาเป็นภาพ เหมือนพาทุกคนเข้าไปในหัวของเขา พี่หั่ง (มือกีตาร์ของวง) เลยปิ๊งขึ้นมาว่า งั้นคอนเสิร์ตนี้ก็ใช้ชื่อง่ายๆไปเลยว่า Potato Head พอได้ชื่อก็จะมีแฮชแท็ค #ในหัวมัน ที่ทำให้คนเข้าใจง่ายขึ้น เข้าไปในหัวมันฝรั่ง (หัวเราะ)
คุยกับ “POTATO” ยังไงบ้าง อยากให้พวกเขาออกมาเป็นอย่างไร
ป่านแก้ว : อันดับแรก ต้องได้ฟังเพลงที่คนคิดถึง นั่นคือข้อ 1 แล้วเพลงที่คนคิดถึงจะมีทั้งออริจินัล และมีการปรับเปลี่ยนที่ทำให้ Mood คอนเสิร์ตมีอะไรใหม่ๆ ได้มากขึ้น ให้ดื่มด่ำได้มากขึ้นทั้ง ฉาก บรรยากาศ ซึ่งพอเป็นคอนเสิร์ตScale พอดีๆ จะทำอะไรแบบที่ใน Impact หรือ ราชมังฯ ทำไม่ได้ ซึ่งสิ่งที่เราคิด เราอยากให้ได้บรรยากาศทั้งฮอลล์ แต่เหมือนคุณอยู่ในโรงหนัง 4D ก็เลยต่อยอดเป็น Script เป็นรายละเอียดต่างๆ ว่าจะใส่อะไรเข้าไป แทรกในแต่ละเพลง ในส่วนทางวงเขาจะเน้นที่ภาคดนตรีกับภาพรวมคอนเสิร์ต พาร์ทดนตรีต้องเป๊ะเพราะมาจากหัวเขา ซาวด์ Visual ต้องกลมกลืนกับดนตรี ก็ต้องมาหาจุดร่วมกัน
ทำไมต้องจัดที่ ONE BANGKOK
ป่านแก้ว : มันเป็น Scale ที่เหมาะสม ถึง Scale จะเล็กแต่ก็ต้องไม่เล็กเกินไป ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องต้นทุนคอนเสิร์ตด้วยถ้าจะพูดกันตรงๆ ซึ่ง ONE BANGKOK เป็นสถานที่ๆ เหมาะสม เดินทางสะดวก
ความพิเศษของ “เวทีวงรี” และ Concept “รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส”
ป่านแก้ว : ความต้องการคืออยากให้ศิลปินใกล้ชิดแฟนเพลง เลยดีไซน์เวทีเป็นวงรี วางที่นั่งแบบโอบล้อม ให้ใกล้ชิดกับ Potato แบบไม่ใช่ผังปกติ ซึ่งมันจะล้อไปกับฉากแบบ Immersive Mapping ที่จะพยายามจะโอบล้อมฮอลล์เข้าไปด้วย ส่วน Concept “รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส” ตัว Visual จะเป็นการใช้ Mapping บนฉากขาว เวลามันย้อมไปกับฉาก คนดู ศิลปิน จะกลืนเป็นเนื้อเดียวกันกับฉาก ส่วนเรื่อง กลิ่น เอาจริงๆ มันจะมี Scene บางอย่างเกิดขึ้น แต่ต้องอดใจรอในงาน แล้วเราจะดีไซน์การ์ด Ticket ที่เก็บกลิ่นเอาไว้แจกคนดู ซึ่งเป็นกลิ่นที่ดีไซน์โดยสมาชิกวง Potato ว่ามาคอนเสิร์ตนี้อยากให้แฟนๆ จดจำด้วยกลิ่นแบบไหน ก็จะเป็นการ์ดหอมแจกให้ทุกคนในวันงาน ส่วน รส ก็จะมี Scene เหมือนกัน เทสต์อะไรบางอย่างพร้อมกันในฮอลล์ แต่ไม่ใช่การทำกับข้าวโชว์แน่นอน (หัวเราะ)
5 รอบ จะเหมือนกันมั้ย
ป่านแก้ว : จริงๆ ตอนทำ Song List ทำยากมากเพราะ Potato มีจำนวนเพลงมหาศาลที่ทุกคนอยากฟัง แล้วการจะทำให้โชว์ ต่อเนื่องให้สนุกตั้งแต่ต้น จนจบยากมาก ก็เลยถูกเลือกมาให้มีจำนวนเพลงกำลังพอดี เลยเกิดขึ้นมาว่า จะมีบางช่วงที่ใน 5 รอบนี้เพลงไม่เหมือนกันเลย แต่ 80 เปอร์เซ็นต์เพลงคล้ายๆ กัน อีก 20 เปอร์เซ็นต์จะต่างออกไป
ทิ้งท้าย เชิญชวนมาสนุกกัน
ป่านแก้ว : คอนเสิร์ต POTATO HEAD CONCERT คอนเสิร์ตในหัวมัน ในวันที่ 15, 16, 17, 19 และ 20 สิงหาคม 2568 5 รอบการแสดงจุใจที่ One Bangkok Forum บัตรนั่งราคา 5000 / 4500 / 4000 / 3500 / 3000 / 2500 และ 2000 บาท กดบัตรที่ The Concert Application หรือทางเว็บไซต์ www.theconcert.com