Progression Tollway
คำพูดที่เป็นวลียอดฮิตของการเล่นกีตาร์หรือเล่นดนตรีก็คือดนตรีไม่มีทางลัด ซึ่งเป็นเรื่องจริง อยู่ประมาณ 99 เปอร์เซนต์ทีเดียว เอ๊ะ แล้วอีกหนึ่งเปอร์เซนต์มันคืออะไร ทำไมมันถึงไม่ใช่ 100 เปอร์เซนต์ล่ะ หลายท่านอาจจะนึกสงสัยอยู่ในใจ เราอยากจะบอกทุกท่านว่า ถึงทางลัดจะไม่มี แต่ถ้าเป็นทางด่วนน่ะ พอจะมีครับ มันมีทางด่วนที่จะทำให้ทุกๆ ท่านเข้าใจอะไรๆ ในดนตรีได้เร็วขึ้น นักดนตรีในบ้านเราหลายคนไม่ใช่คนที่เล่นกีตาร์เก่งระดับเทพนะครับ แต่พวกเค้าสร้างงานดีๆ ขึ้นมาได้ เพราะอะไรน่ะเหรอครับ เพราะพวกเค้าใช้ทางด่วนทางดนตรีที่เรียกว่า “การฟัง” นั่นเอง คำว่าฟัง คือฟังอะไร ? ฟังเพลงล่ะหนึ่ง คนเหล่านี้มักจะฟังเพลงอยากหนักหน่วง เปิดกว้างรับทุกแนวดนตรี มีทัศนคติดีๆ กับอีกวิธีหนึ่งก็คือฟัง จำสิ่งที่เล่นและนำไปใช้ หนึ่งในวิธีการเล่นที่จะเรียกว่าเป็นทางด่วน ในทางดนตรีก็คือเรื่องของการจำทางคอร์ดนี่แหล่ะ ในการแต่งเพลงจะมีสิ่งที่เรียกว่าทางคอร์ด เพื่อกำหนดเมโลดี้ ในการสร้างงานดนตรีขึ้นมา ดังนั้นการจำเสียงทางคอร์ดแบบสำเร็จรูปอาจจะช่วยคุณได้ในแง่การแกะเพลง แต่งเพลง ให้รวดเร็วมากขึ้น คุณสามารถใช้ทางคอร์ดเหล่านี้ ไปแต่งเพลงของตัวเอง หรือเทียบกับเพลงดังๆ ได้เลย เราจึงเรียกว่าทางด่วนในการดนตรียังไงล่ะ
คำเตือน : ถึงเราจะเรียกมันว่าทางด่วนก็ตาม แต่มันก็คือทางด่วนในกรุงเทพฯ ดังนั้น ถ้ามันจะต้องมีติดขัดบ้าง ต้องใจเย็นๆ เข้าไว้ ถ้าอยากให้ถึงจุดหมายได้จริงๆ พยายามทำความเข้าใจ ในเองดนตรีให้มากๆ ฝึกซ้อมให้เยอะๆ “ดนตรีไม่มีทางลัด” โชคดีครับ
ทางคอร์ดยอดฮิต
เอาคำว่าทางคอร์ดก่อน มันต้องเริ่มจากในคีย์เพลงหนึ่งๆ จะมีคอร์ดทั้งหมดเจ็ดคอร์ดหลักๆ ก็จะอ้างอิงมาจากพวกสเกล ยกตัวอย่าง สเกล C Major จะมีโน้ต C-D-E-F-G-A-B และจบด้วย C นี่คือการเรียงลำดับของโน้ต แต่ถ้าเป็นคอร์ด ก็จะได้เป็น C-Dm-Em-F-G (G7)-Am-Bm7b5 (ส่วนที่มาเป็นอย่างไร ทำไมถึงได้เป็นคอร์ดนี้จะข้ามไป ถ้าอยากรู้จงไปศึกษาเอง เพราะตอนนี้เรากำลังจะข้ามทางด่วนกัน ท่องตรงนี้ไว้ก่อน) และมันก็จะเรียงลำดับคอร์ด C เป็นคอร์ดที่หนึ่ง และจากนั้นจะเป็นสอง สาม สี่ ตามลำดับ ดังนั้นทางเดินคอร์ดก็คือเอาไอ้ลำดับพวกนี้มาเรียงใหม่ ซึ่งพอเรียงแล้ว มันจะมีเสียงเฉพาะทางเดินคอร์ดนั้นๆ ถ้าเราสามารถจดจำได้ ก็จะสามารถแต่งเพลง แกะเพลงได้ง่ายขึ้น แล้วพอเราเปลี่ยนคีย์ โทนของเสียงก็จะเปลี่ยนไป นั่นแหละคือประเด็นถ้าเราจำเสียงเฉพาะของทางเดินคอร์ดในแต่ละคีย์ได้ การเล่นกีตาร์ก็จะง่ายมากขึ้น ดังนั้นมาเริ่มกันเลยดีกว่า
Ex.1 ง่ายๆ เลย เรายกตัวอย่างจากทางคอร์ดยอดฮิตสำหรับผู้เริ่มต้น คือ 1-6-2-5 ถ้าในคีย์ C Major ก็คือ C-Am-Dm-G
Ex.2 คีย์ของเพลงจะแบ่งเป็นทาง # (ทางชาร์ป) กับทาง b (ทางแฟล็ต) คราวนี้ทางคอร์ด 1-6-2-5 ทาง # จะมีดังนี้
G Major : G-Em-Am-D
D Major : D-Bm-Em-A
A Major : A-F#m-Bm-E
E Major : E-C#m-F#m-B
B Major : B-G#m-C#m-F#
ข้อที่เป็นจุดสังเกตก็คือทางคอร์ดในคีย์ # เสียงจะฟังดูสว่างกว่าเวลาเล่นกีตาร์ เพราะจะมีรูปแบบการจับคอร์ดที่เป็นคอร์ด Open String เยอะ
Ex.3 คราวนี้เป็นคีย์ทาง b จะได้ดังนี้
F Major : F-Dm-Gm-C
Bb Major : Bb-Gm-Cm-F
Eb Major : Eb-Cm-Fm-Bb
Ab Major : Ab-Fm-Bbm-Eb
Db Major : Db-Bbm-Ebm-Ab
ข้อที่เป็นจุดสังเกตก็คือทางคอร์ดในคีย์ b เสียงจะฟังดูไม่กว้างเท่า เพราะจะมีรูปแบบการจับคอร์ดแบบทาบหรือ บาร์คอร์ดเยอะ ทั้งนี้ยังมีทางคอร์ดของคีย์ F# Major, C# Major, Gb Major, Cb Major อีก แต่เราไม่ค่อยได้ใช้งานเท่าไหร่ ลองจากทางเดินคอร์ดแบบ 1-6-2-5 ในหลายๆ คีย์ จำเสียง วิธีจับคอร์ดต่างๆ ดูครับ