Paradox
วงดนตรีที่เป็นนิยามของคำว่า “อิสรภาพในค่ายเพลงใหญ่” อย่างแท้จริง วงดนตรีที่มีโชว์สนุกสนาน คาดเดาไม่ได้ และเหมือนว่าอยากจะทำอะไรก็ได้ แล้วผลออกมาดีเสมอ ทั้งๆ ที่ตัวตนของพี่ๆ ทั้ง 4 คน มีความเป็นไอ้หนุ่มอินดี้ค่อนข้างสูง ทุกเพลงที่พวกเขาทำมีคาแร็กเตอร์หมด ทำไมพวกเขาถึงทำได้ นี่น่าจะเป็นแรงบันดาลใจที่เจ๋งสุดๆ ในการทำเพลงแล้ว ลองไปอ่านแนวคิดแบบ Paradox กัน
Indy สู่ Eternity
ต้า : เราทำเพลงกันมานาน แต่เพลง “ฤดูร้อน” เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้รู้ว่าที่เราทำมา เราทำถูกทาง เพลงฤดูร้อนเป็นเพลงตำนานของพวกเราเลย มันเป็นเพลงที่ เกือบถูกโปรโมต แต่ด้วยความที่เพลงก่อนหน้านั้น กระแสดีเกินไป เพลงนี้เลยถูกยกเลิก (หัวเราะ) ไม่มี MV ไม่มีแผ่นตัด Single แต่พวกเราเชื่อมั่นในเพลงนี้เสมอว่ามันเป็นเพลงที่ดี เราเอาไปเล่นในทุกที่ จนวันนึงมันสามารถกลายเป็นเพลงที่ดังที่สุดชองพวกเรา โดยไม่ใช่เพลงโปรโมท มันทำให้สิ่งที่เราเชื่อว่าการทำเพลง ต้องทำให้ดีที่สุด เดี๋ยวถึงเวลามันจะระเบิดออกมาเอง เพลงนี้ใช้เวลา 7 ปีนะ ฉะนั้นไม่ต้องหวั่นไหวว่าทำไม ทำแล้วคนไม่ชอบ ทำไมไม่ฮิต เมื่อเพลงมันทำงานมันจะสามารถต่อยอด เหมือนอัลบั้มเก่าๆ ของเราที่ตอนนี้กลายเป็นของสะสม ทั้งๆ ที่ตอนออกมาใหม่ๆ มันอาจจะเป็นดิวิชั่น 4 แต่ทุกวันนี้กลายเป็นของสะสม เพราะฉะนั้นเราจึงโฟกัสที่ทำงานเพลงให้ดีที่สุด
สอง : เพลงนี้กว่าจะดัง 7 ปี ตอนนี้ก็หวังว่าอีก 7 ปี “ฤดูฝน” จะทำงาน (หัวเราะ)
ต้า : เราพลิกจากที่มันเป็นจุดด้อยให้กลายเป็นจุดเด่น มันภูมิใจนะ ข้อดีคือแม้ตอนนี้เพลงจะยังไม่ดังมาก แต่เพลงมันจะไม่ช้ำ อย่างเพลงปลายสายรุ้ง เราก็คาดหวังนะว่าจะเป็นแบบนั้น คือเราก็ทำเพลงให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ณ ตอนนั้น เรื่องความดังมันคาดไม่ได้ มันไม่มีสูตร เพลงง่อยๆ สามคำ วินาทีนึง ก็อาจจะดังได้ ผมเชื่อว่าทำเพลงให้ดี อนาคตมันจะดังได้ อย่าไปคิดว่าปล่อยแล้วเงียบ แล้วถอดใจ ผมเป็นกำลังใจให้ เราโชคดีที่เมล็ดที่เราหว่านไว้ มันงอกออกมาเป็นผลให้เก็บเกี่ยว ถ้าเราทำอะไรในสิ่งที่มีความสุข แล้ววันนึงจะมีแต่กำไร
การรักษาแรงบันดาลใจสไตล์ Dox
ต้า : จริงๆ พวกเราไม่เคยเบื่อนะกับการที่จะเล่นเพลงอย่าง “น้องเปิ้ล” หรือเพลงฮิตหลายๆ รอบ แต่พวกเราจะเซ็งเวลาที่เราเล่นแล้วคนยืนนิ่ง หรือเขาจับประเด็นไม่ได้ จะรู้สึกแบบเพลงเราก็น่าสนใจนะ ทำไมไม่ฟังล่ะ
สอง : เรายังสนุกกับการออกไปเล่นถึงแม้จะเป็นเพลงเก่าๆ แต่เราสนุกอยู่ เราสามารถเอาเพลงตัวเองมาทำใหม่ได้อย่าง น้องเปิ้ลอาจจะมีเร่งจังหวะ เพิ่มให้บิ๊กโซโล่ หรือเปลี่ยนคีย์แบบไม่ได้เตี๊ยม (หัวเราะ)
ต้า : เจอแบบนี้ผมแหกโค้งเลย (หัวเราะ) จริงๆ มันสนุกนะเวลาไปที่แปลกๆ แล้วเราไม่รู้จักเลย คือมันจะทำให้พวกเรารู้สึกว่าเป็นวงหน้าใหม่ตลอดเวลา ทำให้เราสนุกไปกับโชว์ อย่างเวลาไปต่างจังหวัดเราจะค่อนข้างเจียมตัว เพราะมั่นใจว่าคนดูหลายคนไม่รู้จักเพลงของเรา แต่เราก็จะทำให้จังหวะมันสนุก ให้เขามาเฮฮาร่วมกัน เมื่อพวกเขามีรอยยิ้มก็จะทำให้พวกเราดีใจ คือคำว่าแรงบันดาลใจมันอาจจะเป็นเรื่องของตัวบุคคล จุดเริ่มต้นของพวกเราก็แค่อยากเล่นดนตรี อยากเผยแพร่ความสุข อย่างการโชว์ที่มียอดมนุษย์หรือการแจกของต่างๆ เกิดจากที่เราไปเล่นดนตรีที่คณะ แล้วเรารู้สึกว่าคอนเซ็ปต์แบบงานปาร์ตี้คณะ มันสนุก มันเริ่มจากความสุขในการที่จะให้ มันจะมีแต่ผลกำไรในชีวิต กำไรนั้นก็คือความสุขและรอยยิ้มจากคนอื่น ซึ่งมันทำให้เราแฮปปี้นะ
สอง : แล้วมันก็ไม่ต้องทำให้เราต้องปวดหัวว่าจะต้องบิ้วท์โชว์ยังไง เราก็เล่นไปเรื่อยๆ ได้เลย
ต้า : มันทำให้เราไม่ต้องคาดหวังอะไรมาก ไม่ต้องมานั่งคิดถึงค่ารถ ค่าเวลา นู่นนี่นั่น ยิ่งเล่นยิ่งเป็นการโปรโมตตัวเอง ไปร้านนี้ ร้านนั้น มันก็จะเป็นปากต่อปาก เจ้าของร้าน ก็มาเห็นเราเล่นสนุกก็จ้าง ร้านข้างๆ เห็นก็มาจ้างต่อ มันก็พัฒนาไปเรื่อยๆ เป็นงานจ้างจนทุกวันนี้
สอง : ซึ่งเวลาที่เราไปเล่นอย่างพวกงานกาชาด หรืองานอะไรที่มันแปลกๆ เราแต่งตัว แจกของ มันก็จะทำให้สนุกขึ้น คราวนี้คนดูก็จะไม่เกร็งแล้ว
ต้า : มันท้าทายดีด้วย วงเรามักจะโดนไปทัวร์แพ็คกับวงลูกทุ่งบ่อยๆ ซึ่งเอาจริงๆ ก็ไม่ใช่ที่ของเรา แต่พวกเราก็จะมานั่งลุ้นว่าเออ วันนี้จะทำยังไงให้คุณป้าเขาสนุกได้ (หัวเราะ) คือถ้าบรรยากาศโชว์มันดี แม้เขาจะไม่รู้จักเพลงของเรา มันก็สนุกได้และทำให้พวกเราไม่เบื่อด้วย
หวย พระ!!!!
ต้า : ก็อย่างที่หลายคนทราบผมเป็นคนสนใจเรื่องพระเครื่องกับมวย เรื่องพระนี่ผมมีข้อแนะนำถ้าอยากประสบความสำเร็จในการงาน เอาเท่าที่ผมศึกษาอยู่และมีอยู่ก็ขอแนะนำ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก มีเรื่องเล่าก็คืออัลบั้มล่าสุดของ Paradox เนี่ยมันมีแต่ปัญหา ห้องอัดเต็ม คนมิกซ์ไม่ว่าง คือมีปัญหาไปหมดจนท้อใจ วันนึงนั่งหน้าจอคอมฯ ซึ่งมีรูปหลวงปู่ดู่ ผมเลยอธิษฐานขอให้ทุกอย่างราบรื่น แล้วเดี๋ยวจะสวดมนต์ร้อยแปดจบเป็นเวลาสิบวัน อะไรแบบนี้ ปรากฏปุ๊บโทรศัพท์ดังเลยว่าห้องอัดว่างแล้ว แล้วทุกอย่างลื่นไหล จากที่ผมไม่ค่อยเชื่อมาก คราวนี้ก็เลยเลื่อมใสก็เลยเก็บสะสมวัตถุมงคลหลวงปู่ดู่ แขวนแล้วรู้สึกตัวเบา
สอง : ขนาดนั้น
ต้า : ตังหมด (หัวเราะ) ไม่ใช่ๆ ทุกอย่างจะลื่นไหล ซึ่งผมก็ชวนโจอี้ บูชา ก็ตัวเบาเหมือนกัน (หัวเราะ) การเล่นพระเนี่ยทำให้เราสนใจพวกประวัติศาสตร์ของวัตถุโบราณ การมองเส้นสาย ซึ่งมันเป็นเรื่องที่สนุกมาก เราเอามาประยุกต์กับวงเราด้วย
สอง : ยังไง
ต้า : ก็อย่างอัลบั้มแรก Paradox พิมพ์ที่ไหน ปกแบบเนื้อจักร มีปั๊มหนึ่ง ปั๊มสอง พิมพ์นิยมรุ่นหายาก เราก็ประยุกต์กับอัลบั้มเราเอง ก็เป็นการเพิ่มคุณค่าของสะสม (หัวเราะ) แต่ถ้าเอาโดดเด่นเรื่องความรักก็ต้องเป็นพระปิดตา จริงๆ ไม่ใช่เรื่องความรักตรงๆ นะ แต่เป็นภาพรวมแบบให้เรื่องที่คิดลื่นไหลมากกว่า เพราะไม่มีพระที่ไหนมานั่งจับคู่ให้เราหรอก (หัวเราะ) แต่จะเป็นเรื่องรวมๆ นอกจากหลวงปู่ดู่ หลวงปู่ทิมวัดละหารไร่ แล้วก็หลวงพ่อพาน วัดโป่งกะสัง อันนี้กันกระสุน
สอง : น่าสนใจอันนี้เกี่ยวอะไรฮะ
ต้า : มีช่วงนึงเวลาไปทัวร์ก็มีตีกันบ่อย ระเบิดขว้าง ยิงกัน เลยถามเพื่อนที่เป็นเกจิ แบบเล่นๆ ว่ามีแบบกันกระสุนไหม เผื่อโดนลูกหลง เพื่อนก็แนะนำหลวงพ่อพาน มา จะได้แคล้วคลาด เผื่อมีกระสุนมาก็ไปโดนมือเบสก็ว่ากันไป (หัวเราะ) ซึ่งเรื่องการแขวนพระเนี่ย บางทีก็ช่วยเรื่องโชคลางอย่างหวยด้วย (หัวเราะ) ไม่รู้เกี่ยวกันหรือเปล่านะ แต่มีคนบอกว่าพี่สองเพื่อเอาล็อตเตอรี่ไปวางในถ้วยที่มีพระอยู่ก็เลยถูก ล่าสุดถูก 30 ใบใช่ไหม (หัวเราะ)
สอง : โอ้โหปูมาแบบนี้เลย ใช่ครับ (หัวเราะ) ถูกเกือบแสน ถวายหลวงพ่อพานไปหมดแล้ว (หัวเราะ) อย่าคาดหวังเรื่องนี้จากผมเลยครับ ผมมันปลาซิวปลาสร้อย
ต้า : กทม. กับต่างจังหวัดตรงไหนมีเปอร์เซ็นต์มากกว่ากันครับ
สอง : ต่างจังหวัด (หัวเราะ) หลายๆ ทีแล้วนะ บางทีเราซื้อแถวออฟฟิศไม่เคยถูกเลยนะ แต่เวลาไปทัวร์ไปแวะตามต่างจังหวัด ตามปั๊มน้ำมันเก่าๆ ได้ตลอด โดยเฉพาะภาคอีสาน (หัวเราะ) จริงล็อตเตอรี่มันไม่ได้ลึกลับอะไร มันเป็นเรื่องของสถิติกับความน่าจะเป็น แล้วผมว่าหวยล็อคนี่ไม่น่าจะมีนะเพราะผมว่าทุกอย่างเป็นเรื่องของสถิติ และความน่าจะเป็น
เรื่องราวกีตาร์ของบิ๊ก Paradox
บิ๊ก : จริงๆ ผมก็มีกีตาร์หลายแบรนด์นะ Fender, Gibson แต่ที่ชอบสะสมก็คือ Ibanez เพราะยุคที่ผมเริ่มเล่นกีตาร์ กีตาร์ฮีโร่จะเล่น Ibanez ไม่ว่าจะเป็น Steve Vai, Paul Gilbert, Joe Satriani ซึ่งตอนเด็กๆ เราก็ไม่มีตังค์ พอตอนนี้มีโอกาสก็เลยสะสม ตัวแรกที่ซื้อคือรุ่น Steve Vai สีเหลืองสะท้อนแสง เคยเอามาเล่นกับวงด้วย แต่มันเสียก็เลยยกให้เพื่อนไป ตอนนี้ขายได้เป็นแสน (หัวเราะ) ไปทวงก็ไม่ได้แล้ว หลังๆ ก็เริ่มเก็บ Paul Gilbert ก็มีเกือบทุกรุ่นนะ John Petrucci ก็มี แต่ของ Joe Satriani ไม่มี เพราะไม่มีตังแล้ว (หัวเราะ) แล้วผมก็มี Channel ของผมเองใน YouTube แต่ไม่ชอบถ่ายให้เห็นหน้า เพราะผมอยากให้คนต่างประเทศรู้ว่าเราเป็นใคร จะได้คอมเม้นต์เราเต็มที่ ซึ่งฝรั่งเวลาคอมเม้นต์ นี่ดีนะเขามาแบบสุภาพตรงๆ ของไทยจะเกรียนๆ หน่อย (หัวเราะ)
จดหมายถึงแก๊ป T-Bone
ต้า : ถ้าเราเขียนจดหมายจากวันวานได้ เราจะเขียนถึงพี่แก็ป T-Bone เพราะถ้าไม่มีเขาเราจะไม่มีวันนี้แน่นอน ในวันที่เราเริ่มไปส่งเดโม่ พี่แก๊ปเป็นคนที่เห็นคุณค่าของเรามาก ทั้งๆ ที่เราก็กลัวว่างานจะขายยาก แต่พี่แก๊ปมองมุมเดียวกับเรา
สอง : ต้องบอกว่าขอบคุณที่พี่แก๊ปลืมของไว้ คือเดโม่ของเราวางอยู่บนโต๊ะแก คือแกลืมของแล้วย้อนกลับมาเอา แล้วมาเจอเดโม่ของเรา แกก็เอาไปฟังในรถ วันรุ่งขึ้น ก็โทรหาเราเลย ซึ่งมันเป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตในคืนเดียวเลยนะ ถ้าหากแกไม่กลับมา แม่บ้านอาจจะเอาไปทิ้งก็ได้
ต้า : ในวันที่เราพึ่งได้ออกอัลบั้มครั้งแรก เราไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่พี่แก๊ปฟังแล้วเชื่อในตัวพวกเรา เขาบอกกับเราเสมอว่าพวกเรามีของ
สอง : ถ้าเราไม่มีพี่แก๊ป ก็ไม่รู้เลยว่าป่านนี้ Paradox จะเป็นยังไง อาจจะแยกไปทำอย่างอื่นกันแล้วก็ได้
เล็กๆ น้อยๆ กับ Paradox
- พี่บิ๊กเป็นสายนักชิม และโปรดปรานการชิมกาแฟ และการดูศิลปะ Late บนกาแฟอีกด้วย
- พี่โจอี้เป็นนักวิ่งมาราธอน เคยเล่นเสร็จ กลับไปนอนเพื่อ ตี 4 จะได้ตื่นลุกขึ้นมาวิ่ง
- พี่โจอี้เป็นคนที่ไปร่วมรายการแข่งโบว์ลิ่งระดับโลกมาแล้ว (เป็นรายการสะสมคะแนนที่จัดให้มือระดับโลกมาแข่ง ซึ่งถ้ามีมาในไทยพี่โจอี้จะไปร่วมด้วยเสมอ ซึ่งเมื่อเราถามว่าระดับโลกเก่งไหม พี่โจอี้บอกว่างั้นๆ 555555)
- พี่ต้า บอกว่าเวลาเล่นโบว์ลิ่งแล้วเหมือนมีคนมาจ้องบั้นท้ายตลอดเวลา
- เหตุผลที่พี่โจอี้หันมาสนใจโบว์ลิ่ง เพราะสมัยก่อนตอนที่ Paradox มีกิจกรรมชอบเล่นโบว์ลิ่งกัน พี่โจอี้เป็นคนที่ “ล้างท่อ” บ่อยที่สุด จึงฝังใจไปฝึกเล่นจริงจังแต่พอเล่นเก่ง ทุกคนก็พร้อมใจกันเลิกเล่นแล้วนั่นเอง (น่าสงสาร)
- พี่สองคืออัจฉริยะเซียนเกมของวง โดยเฉพาะเกมคีบตุ๊กตา เคล็ดลับพี่สองบอกว่ามันไม่ใช่การ “คีบจับ” แต่เป็น “การเกี่ยว” เราต้องทำยังไงก็ได้ให้ส่วนใดส่วนนึงของตุ๊กตาเกี่ยวกับตัวเครนที่คีบ
- รวมถึงไปคีบในเกมมือถือด้วย ซึ่งสถิติที่ทำได้ในเกมก็คือ 38 ตัว (ได้ตุ๊กตาจริงๆ มาส่งถึงบ้านส่งตรงจากญี่ปุ่น)
- พี่ต้าบ้ามวยมาก ดูทุกชนิด ชอบกีฬาการต่อสู้ทั้งมวยสากล มวยไทย หรือมวยกรง
- พี่ต้ามีความฝันอยากเป็นคอลัมนนิสต์เกี่ยวกับมวย ซึ่งแกกล้าบอกว่าถ้าบอลให้เชียร์ตรงข้าม ถ้ามวยเชื่อใจได้เลย
- พี่ต้าเก็บสะสมเข็มขัดมวยโลก มีทุกสถาบัน
- พี่บิ๊กมักจะคุยเรื่องกีตาร์กับพี่โอ่ง Ghost อยู่เสมอ และทั้งคู่ก็มักจะเสียเงินกับกีตาร์เป็นประจำ เรียกได้ว่าหลอนกันเองทั้งคู่
ฝาก
Paradox : ก็ต้องขอขอบคุณ The Guitar Mag นะครับ ที่ให้เกียรติมาพูดคุยกัน ก็ผูกพันกันมาตั้งแต่สมัยพี่ต้าใช้ทำวิทยานิพนธ์ ตอนเรียนจบ จนปัจจุบัน แล้วก็ฝากผลงานทั้งงานล่าสุดเขียนไว้ข้างเตียง หรือกับ L.O.V.E กับโปรเจ็กต์ Play2Project หรือถ้าใครชอบจดหมายจากวันวาน ก็ไปฟังย้อนหลัง หรือซื้ออัลบั้ม Before Sunrise After Sunset ของพวกเราได้ ส่วนคอนเสิร์ตใหญ่ ต้องอีกสักพักนะจ๊ะ
“จุดเริ่มต้นของพวกเราก็แค่อยากเล่นดนตรี อยากเผยแพร่ความสุข อย่างการโชว์ที่มียอดมนุษย์หรือการแจกของต่างๆ เกิดจากที่เราไปเล่นดนตรีที่คณะ แล้วเรารู้สึกว่าคอนเซ็ปต์แบบงานปาร์ตี้คณะ มันสนุก มันเริ่มจากความสุขในการที่จะให้ มันจะมีแต่ผลกำไรในชีวิต กำไรนั้นก็คือความสุขและรอยยิ้มจากคนอื่น ซึ่งมันทำให้เราแฮปปี้นะ”