ถ้าคุณเป็นคนนึงที่ยังชื่นชอบในการฟังเพลง และยังรักคนที่ทำงานให้กับศิลปินอย่างคนเบื้องหลัง ถ้าคุณยังอ่านเครดิตของคนที่ทำงานในด้านนี้อยู่ (ในยูทูบใต้ MV จะมีเครดิตอยู่) เชื่อได้เลยว่าในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา ชื่อนึงที่ต้องผ่านสายตาก็คือ “แอ้ม อัจฉริยา ดุลยไพบูลย์” ชื่อของนักแต่งเพลงในแนวป็อปให้กับป๊อปสตาร์ระดับประเทศ อย่างเป๊ก ผลิตโชค, ป๊อบ ปองกูล และอีกฝากนึงก็คือ Rapper อย่าง Urboy TJ, กอลฟ์ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ รวมถึงเพลงประกอบซีรี่ส์อีกมากมาย เอาเป็นว่าคุณลองเปิด YouTube ก็ได้ แล้วดู MV ของศิลปินที่เรากล่าวมา คุณจะได้เห็นชื่อนี้ ในอีกหลายๆ ศิลปินที่เกี่ยวข้องกัน นี่คือหนึ่งในนักแต่งเพลงที่งานชุกที่สุด เราจะมาทำความรู้จักกับเธอและวิธีการในการทำงานเพื่อให้ได้เนื้อเพลงที่ดีมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นคนดนตรีในสไตล์ไหนก็ตาม อยากให้ลองมาอ่านกันครับ

แนะนำตัวสักนิดว่า ก่อนที่จะเข้าวงการเพลง ทำอะไรมาก่อนบ้างครับ
แอ้ม : ชื่อ อัจฉริยา ดุลยไพบูลย์ แอ้ม นะคะ จบที่นิเทศศาสตร์ จุฬาฯ และเป็นนักร้องที่ CU Band พอเรียนจบ แอ้มก็ทำงานเกี่ยวกับทางดนตรีเลย สอนร้องเพลง แล้วก็ได้มีโอกาสมาร้องคอรัสให้เพื่อน คือมิ้น สวรรยา ทำให้ได้เริ่มรู้จักกับพวกโปรดิวเซอร์ แต่ที่ทำงานจริงจัง จะเป็นฝั่งอาร์เอสก่อน ได้ไปคอรัสให้ฟิล์ม รัฐภูมิ ก็เลยได้ทำงานให้กับทีมฝั่ง Kamikaze อย่างพี่ก๊อป โปสการ์ด (ธานี วงศ์นิวัติขจร) เอฟู (ณรงค์ศักดิ์ ศรีบรรฎาวัชรากรณ์) หรืออย่างดอดจ์ (มุขพล จันทรวงศ์) แต่จะทำงานในส่วนร้องไกด์ คอรัสมากกว่า
ในช่วงแรกสนใจเป็นนักแต่งเพลงแล้วหรือยัง
แอ้ม : จริงๆ ก็สนใจนะ แอ้มเป็นคนชอบอ่านปกเทป ดูบอกอายุจัง (หัวเราะ) ว่ามีใครเขียนเพลงบ้าง แต่มันดูค่อนข้างไกลตัวเรา เรารู้สึกว่าเราไม่น่าจะทำได้ เลยยังไม่ได้เขียนเพลงตั้งแต่แรก
มีนักแต่งเพลงที่ชอบเป็นหลักๆ บ้างไหม
แอ้ม : เยอะนะ ชื่อแรกๆ ที่จำได้ก็อย่าง วรัชยา พรหมสถิต, พี่ดี้ นิติพงศ์, พี่นิ่ม สีฟ้า อย่างพี่ๆ ที่บอกนี่แบบเราทำตามไม่ได้เลย พี่บอย โกสิยพงษ์ ก็ชอบ หลังๆ ก็ตามแนวอื่นด้วยเพื่อศึกษา ปกติแอ้มชอบฟังเพลงป็อป R&B แต่การเขียนเนื้อแบบแนวอื่นเราก็ศึกษาด้วยว่า เขามีวิธี เขามีภาษายังไง อย่างครูสลา หรือแม้แต่พี่กบ บิ๊กแอส เราดูหมดเลย

จนมาเริ่มแต่งเพลงจริงจังตอนไหน เพลงแรกเพลงอะไร
แอ้ม : มันมีจุดเปลี่ยนตรงที่แอ้มได้โอกาสจากพี่ก๊อป โปสการ์ด เขาเห็นว่าเวลาเราร้องไกด์ เราชอบที่จะแก้คำในเนื้อร้องในงานนั้นๆ เพราะบางทีคำมันไม่ลง พอพี่ก๊อปเห็น เขาก็บอกว่า “แอ้ม น่าจะเขียนเนื้อร้องได้นะ” พี่ก๊อปก็เลยช่วยสอน จนได้มาทำจริงจังตอนอัลบั้ม We Will Love You ของโฟร์ มด ที่ได้มาแต่งเพลง ชื่อว่าเพลง “รักได้รักไปแล้ว” แต่แอ้มทำทำนอง กับเขียนท่อนฮุคไปเฉยๆ แล้วส่งต่อให้พี่ก๊อปไปแก้ ดังนั้นเครดิตชื่อเพลงก็จะเป็นของพี่ก๊อป นั่นก็เป็นครั้งแรกเลยที่ได้เริ่มทำงานตรงนี้ พี่ก๊อปให้แอ้มเป็นโปรดิวเซอร์คู่กับแกเลย ความยากก็คือเราจะสื่อสารยังไงให้คนที่ทำงานเข้าใจ เพราะตอนทำครั้งแรก แอ้มใช้วิธีแบบเคาะโต๊ะ ร้องสด ให้พี่เขาฟัง พอเขาบอกว่าให้ไปทำเดโม่มา เราก็ เออ ทำยังไง เราไม่รู้เลยก็ต้องให้คนอื่นมาช่วยในเรื่องนี้ แอ้มว่านี่เป็นปัญหาแรกของนักแต่งเพลงหลายคนเลยนะ มีเรื่องที่จะเล่าในหัวแต่ไม่รู้จะถ่ายทอดออกมายังไง คือดึงออกมาไม่ได้ ทำให้คนทำงานด้วยกันเข้าใจไม่ได้
ช่วงที่เริ่มทำเป็นหรือเข้าที่เข้าทางแล้ว
แอ้ม : จะบอกว่าเข้าที่เข้าทาง ช่วงแรกแอ้มยังไม่ค่อยเข้าทางเท่าไหร่นะ ยังไงดีล่ะ คือมีเพลงอย่าง “ยิ่งใกล้กันยิ่งกลั้นใจ” ของ Seven Days เพลงนี้แอ้มเริ่มเขียนเยอะขึ้นแล้ว แต่ว่าก็ยังต้องให้พี่ก๊อปช่วยอยู่ดี เราเลยเน้นไปที่แต่งทำนองมากกว่า แล้วพอมีเนื้อเพลงก็ให้พี่ก๊อปช่วยดู มันก็กลายเป็นเหมือนกับว่าเราได้เวิร์คช๊อปตลอดเวลา ทำให้ได้ประสบการณ์จากตรงนี้เยอะมาก ต้องขอบคุณพี่ก๊อปเลย (หัวเราะ)
แต่ก็มีเพลงเป็นของตัวเองด้วย ชื่อ Free Me ดูเหมือนจะไม่ได้ทำต่อ
แอ้ม : โห หาข้อมูล (หัวเราะ) เพลงตัวเองเนี่ย โดนเพื่อนยุยง (หัวเราะ) เพลงนี้แอ้มทำเป็นเดโม่เก็บไว้ ซึ่งก่อนหน้านี้เราเคยร้องคู่กับ Urboy TJ ในเพลง “คิดดัง” เพื่อนเลยยุว่าต้องปล่อยเพลงเองแล้ว (หัวเราะ) ก็เลยปล่อยออกมาเป็น MV ด้วย แต่พอสักพักเพื่อนเราย้ายงาน เราก็เลยไม่ได้ทำต่อ ไม่มั่นใจ (หัวเราะ) ประกอบกับงานเขียนเพลงเริ่มเยอะมากขึ้น ทำให้การเขียนเพลงตัวเองมันค่อนข้างยาก เพราะช่วง 2-3 ปีหลัง งานเยอะทั้งที่เป็นป๊อปแล้วก็ฝั่งทาง Rapper ด้วย
งานล่าสุดที่เป็นที่ตอบรับดีมากๆ คือเพลง “ภาพจำ” การทำงานในเพลงนี้ยากง่ายขนาดไหน ตอนแรกที่ได้โจทย์เพลงนี้ตั้งวิธีการทำงานยังไงบ้าง
แอ้ม : เพลงนี้ต้องให้เครดิตพี่ป๊อบ ปองกูลเลย มันเริ่มจากพี่ป๊อปบอกว่าเขามีภาพในหัวเป็นเรื่องของผู้ชายคนนึงที่ติดคุก แล้ววันเวลาของเขามันไม่เดินไปข้างหน้า แต่แฟนของเค้าที่อยู่ข้างนอกใช้ชีวิตปกติ ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ๋งมากนะ ถ้าเป็นเรื่องปกติก็อาจจะเหมือนคนรักกันพอเลิกกัน ก็จะมีคนนึงที่ยังติดอยู่กับความรักอยู่ แต่อีกคนใช้ชีวิตปกติไปแล้ว อาจจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำ ความยากของเพลงนี้ก็มีตรงที่พวกคำต่างๆ ที่ใช้มันไม่ได้อยู่ในเทรนด์ คือเทรนด์ของคำมันจะเป็นแบบภาษาของ Hip Hop R&B เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเพลงนี้มันไม่ได้อยู่ในกระแสอะไรเลย เราแค่รู้สึกว่าเป็นเพลงที่เหมาะกับพี่ป๊อปเท่านั้นเอง ซึ่งผลก็ออกมาดี ก็ต้องยกเครดิตให้ทีมเพลงอย่างพี่บอล อพาร์ตเมนต์คุณป้า กับพี่ขลุ่ย บริพัตร หวานคำเพราะ ด้วยค่ะ

จากที่เคยคุยกันป๊อปบอกว่าเวลาแอ้มได้เพลงแล้วจะหายไปเลยสักพักใหญ่ๆ เลย
แอ้ม : (หัวเราะ) ใช่ค่ะ เพราะแอ้มต้องแต่งทำนองด้วย เลยต้องไปทำการบ้านว่าพี่ป๊อปร้องโน้ตประมาณไหนแล้วดี เวลาแอ้มแต่งเพลง แอ้มจะคิดไปเลยว่าถ้าเขาร้องออกมาภาพจะเป็นยังไง เช่นบางโน้ตบางคำให้พี่ป๊อปร้องสูงๆ แล้วขยี้หน่อยจะออกมาเพราะ เราจะมีภาพแบบนี้เลย อย่างคำว่า “ชัดเจน” มันก็เลยยากและใช้เวลาเพราะแอ้มจะทำทุกอย่างพร้อมกันไปด้วย จะไปนานตอนที่คิดภาพรวม แต่พอได้มาหมดแล้วเวลาเขียนจะค่อนข้างเร็ว ซึ่งพอผลตอบรับออกมาดีเราก็ดีใจ แต่ต้องบอกว่าทั้งนี้เพลงที่จะดังมันไม่ใช่แค่เราเขียนเนื้อเพลงได้ดี องค์ประกอบมันเยอะมาก นักร้องที่ดี ทีมงานเพลงที่ดี เราพูดคุยรายละเอียดเยอะมาก อย่างยกตัวอย่าง เสียงเอฟเฟ็กต์นาฬิกาในเพลง ก็ตั้งใจใส่เข้ามาเพื่อให้รู้สึกถึงเวลาที่มันผ่านไป อะไรแบบนี้ คือทุกคนใส่ใจรายละเอียดมาก รวมถึงงานภาพ งานพีอาร์ด้วย
วิธีการทำงานของแอ้มเป็นยังไง ถ้าสมมติมีใครมาให้แอ้มแต่งเพลงให้สักเพลง
แอ้ม : แอ้มจะถามก่อนว่าทำเพลงนี้จะออกเป็นรูปแบบไหน ถ้าสมมุติว่าเป็นเพลงตัวเองก็จะต้องทำความรู้จักคนร้อง นิสัยใจคอ ชอบฟังเพลง ร้องเพลงแบบไหน ทำเพลงหวังฮิต หรือทำให้ตัวเองชอบ หรือทำเพื่อวัตถุประสงค์อะไร ขอยกตัวอย่างเพลง “นี่แหละความรัก” ของเป๊ก ผลิตโชคที่ทำให้นุชโดยตรงเลย เพราะเป็กให้โจทย์นี้มา เราก็ต้องเขียนให้คนอื่นฟังได้ รู้สึกว่าเป็นเพลงรักเพลงนึง แต่ว่าในเพลงจะมีรายละเอียดบางอย่างที่นุชฟังแล้วจะรู้ว่าพูดถึงเรื่องเป๊กกับนุช เช่นเวลาเราไปดูแฮชแท๊กที่เขาพิมพ์คุยกันหรืออย่างเวลาเป๊กไลฟ์ แล้วไม่ได้พูดอะไร แต่เป๊กกับนุชก็จะเข้าใจกันอะไรแบนี้ ก็จะมีประโยคในเพลงที่บอกว่า “เหมือนเราได้พูดคุยมากมายทั้งที่ไม่มีเสียงใด เหมือนไม่ได้ยินอะไรสักอย่างนอกจากเสียงหัวใจ เหมือนมีอะไรมากเกินบรรยายแต่ฉันรับรู้ได้” ก็จะมีอะไรประมาณนี้ในเพลง ซึ่งก็จะยกมาจากเรื่องจริง ซึ่งเราก็ต้องทำการบ้านพอสมควร อยู่ที่โจทย์ที่ตั้งไว้แต่แรกด้วย
ถ้าเราดูจากผลงานทั้งหมด จะเห็นว่าแอ้มทำงานกับศิลปินที่ “มีความคาดหวัง” ค่อนข้างสูง การจะสร้างเนื้อเพลงที่จะส่งให้นักร้องอย่างเป๊กหรือป๊อปให้เด่นขึ้น ตรงนี้ยากขนาดไหน เพราะต้องมีเรื่องความคาดหวังจากภายนอกเยอะ
แอ้ม : ยากอยู่เหมือนกัน ส่วนใหญ่เป็นความคาดหวังของตัวเองมากกว่า (ยิ้ม) เราไม่อยากให้ศิลปินที่เราทำงานให้รู้สึกผิดหวัง อย่างพี่ป๊อป เราก็อยากให้เพลงที่เราทำเขารู้สึกชอบ หรือเป๊ก แอ้มก็จะคิดถึงนุชค่อนข้างมาก จริงๆ ทุกครั้งที่ทำเพลงเราก็อยากให้คนที่ฟังเพลงเราชอบนั่นแหละ

การสวมบทบาทในฐานะผู้หญิงมีปัญหามั้ย ในการใช้ภาษาเวลาเขียนเพลงให้นักร้องผู้ชาย หรือแม้แต่เขียนเพลงผู้หญิงแต่เป็นเด็กๆ อย่าง แพม MBO
แอ้ม : เอาจริงๆ แอ้มไม่ค่อยมีปัญหานี้เท่าไหร่นะ เพราะเราเวลาพูดจะดูแมนๆ หน่อย แต่เราก็ต้องมีทริกบางอย่างเช่นไม่ให้ศิลปินรู้ว่าใครเขียน เพราะบางทีมันเกี่ยวกับความเชื่อของคนที่แจกงานด้วย บางทีเราก็ใช้วิธีแอบฝากให้โปรดิวเซอร์ไปส่ง อย่างงานเพลงที่เป็นเพลงร็อคๆ แอ้มก็เคยเขียนนะส่วนใหญ่เป็นเพลงซีรี่ส์ ซึ่งพอศิลปินมารู้ทีหลังว่าเราเขียนก็ตกใจ (หัวเราะ) กลายเป็นว่าแอ้มมีปัญหากับเพลงผู้หญิงมากกว่า อย่างน้องแพม เพลงแฟนเธอ ตอนแรกเป็นผู้ชายเขียน แต่ภาษามันไม่ได้เลย ทางโปรดิวซ์ฯ ก็คือโฟร์ 25 hours ก็เลยขอให้เราเขียน ซึ่งแม้เราจะมีภาษาที่แมนขนาดไหน แต่ในมุมนึงเราก็มีมุมผู้หญิง (หัวเราะ) ก็ตั้องงัดเอาความชะนีมาใส่ไว้ (หัวเราะ) ให้คาแร็กเตอร์ดูจิกกัด ร้ายๆ แต่ไม่มากเกินไป เพราะศิลปินแบบไอดอล ก็ไม่ควรจะร้ายถูกมั้ย (หัวเราะ) ก็จะยากกว่านะบางที (หัวเราะ)
ลายเซ็นในการเขียนเพลงของ “แอ้ม อัจฉริยา” เป็นยังไง
แอ้ม : อันนี้ เราก็ไม่รู้ตัวจนมีเพื่อนมาบอกว่าฟังแล้วรู้ มันจะมีภาษาบางอย่างที่เป็นแอ้มที่ชัดๆ คือทัศนคติที่อยู่ในเพลง อย่างเพลงเศร้าก็จะไม่ดิ่งมาก มีความ Positive อยู่ แล้วก็เมโลดี้ที่มีสไตล์ไหลๆ มีเสียงหลบ มีเสียงเอื้อน ตามสไตล์นักร้องคอรัส (หัวเราะ) เพื่อนๆ ที่ทำงานกันจะบอกว่าถ้ามีอะไรแบบนี้อีแอ้มแน่นอน (หัวเราะ)
การเขียนเนื้อร้องที่ดี มันมีรูปแบบมาตรฐานไหม ในความคิดของแอ้ม
แอ้ม : การเขียนเนื้อร้องที่ดี มาตรฐานจริงๆ ก็คือต้องฟังรู้เรื่องก่อนว่า เล่าเรื่องอะไรอยู่ เพลงนี้จะต้องถูกพูดออกมาจากคนที่มีความคิดแบบนี้ ตรรกะของเพลงเพลงนึงต้องไม่สับสน เช่นเราขึ้นเพลงมาว่าเราแค้นเขามาก แต่ตอนจบดูเป็นคนเข้าใจโลก มันก็จะดูไม่ใช่ หรืออย่างเล่าเรื่องมาแบบพอมารู้จักเธอแล้วเจ็บปวดมาก แต่พออีกท่อนนึงบอกว่ามันเป็นความทรงจำที่ดี แบบนี้มันจะขัดแย้งกันเองมันก็ไม่ได้ แต่เอาเข้าจริงๆ ยุคนี้ต้องการความเฉพาะตัวพอสมควร ถ้าใครที่มีแนวคิดที่เฉพาะตัวจริงๆ เรื่องแบบนี้ก็อาจจะไม่จำเป็นก็ได้
สมมติเราเห็นเนื้อร้องอย่างเดียว แอ้มสามารถตีคร่าวๆ ได้ไหมว่าเนื้อเพลงแบบนี้ มีจุดต้องแก้ไขยังไง
แอ้ม : ก็พอได้ค่ะ อย่างแรกเราจะบอกเขาได้ว่าเนื้อหามันขัดแย้งหรือเปล่า หรือบางทีเราก็แนะนำว่าลองเอาคำมาสลับที่กันไหมอะไรแบบนี้ แต่จริงๆ เวลาใครเขียนเพลงมา แอ้ม จะไม่ค่อยเข้าไปแก้ไอเดียของเขาสักเท่าไหร่ เพราะเพลงยุคนี้ ความเฉพาะตัว ความ Real มันสำคัญ ถ้าไอเดียมันดีอยู่แล้ว บางทีเราไม่เก็ท แต่คนอื่นอาจจะเก็ทก็ได้ ยุคนี้เปิดกว้างมากแล้ว
ปัจจุบันศิลปินสามารถแต่งเพลงเองได้แล้ว ตรงนี้กระทบกับอาชีพนักแต่งเพลงขนาดไหน
แอ้ม : มีมากๆ ค่ะ งานลด (หัวเราะ) เพราะตอนนี้จะมีนักแต่งเพลงหลายๆ ท่านจะบอกว่างานน้อยลง เพราะศิลปินแต่งเพลงเองได้ ก็ต้องอยู่ที่การรู้จักคนแล้ว แต่จริงๆ การทำงานร่วมกับศิลปินที่แต่งเพลงเองได้จะง่ายกว่าที่แต่งไม่ได้นะ เพราะคนพวกนี้จะมีคำในหัวประมาณนึง แล้วจะสามารถบอกได้ว่าอยากได้อะไรบ้าง เราแค่คุยกับเขาเยอะๆ ก็จะทำงานด้วยง่าย อย่างกอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ หรืออย่าง TJ เขาจะมีคำในหัวอยู่แล้วแค่สื่อสารออกมา

อยากเขียนเพลงให้ศิลปินคนไหนอีกบ้าง
แอ้ม : ที่ฝันไว้เลยก็คือพี่เบิร์ด ธงไชย แต่ถ้ายังไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะคะ (หัวเราะ) จริงๆ แอ้มอยากเขียนเพลงให้พี่เบิร์ด แต่ก็ยังแอบไม่มั่นใจว่าจะทำได้ดีหรือเปล่า แต่ถ้าได้ร่วมงานเป็นคอรัสก็ได้นะ (หัวเราะ) เราชอบที่พี่เบิร์ดเป็นคนทัศนคติดี เป็นคนมองโลกในแง่บวก ก็อยากทำงานด้วยสักครั้ง น่าจะเป็นบุญของเรา (หัวเราะ) ส่วนศิลปินที่แอ้มร่วมงานในปัจจุบันด้วย แอ้มก็ดีใจทุกคนนะคะ ไม่ว่าจะเป็น เป๊ก พี่ป๊อป หรือแม้แต่เหล่า Rapper ก็ตาม
ฝากข้อคิดสำหรับคนที่อยากจะแต่งเพลง
แอ้ม : เวลาที่ใครสักคนจะเริ่มแต่งเพลง ปัญหาที่เจอมากที่สุดคือไม่รู้จะเริ่มที่ตรงไหนดี จริงๆ แล้วการแต่งเพลงก็คือการที่เราเล่าเรื่องนั่นแหละ ให้เราลองเขียนเป็นบทความ หรือลองเขียนเล่าเรื่องให้น่าสนใจ แล้วค่อยมาเลือกดูว่าจะใช้คำอะไรที่จะเขียนลงไปในเพลง เรื่องคำให้คิดเป็นเรื่องสุดท้าย ให้เริ่มจากไอเดียก่อน เพราะถ้าเรามาถึงแล้วคิดแต่ว่าใช้คำได้ดีหรือยัง ตรงนั้นจะออกมาไม่ดี เพราะแอ้มว่าคิดว่าเนื้อหาสำคัญกว่า อยากให้หาข้อมูลเยอะๆ แล้วสำหรับการแต่งเพลงจริงๆ ถ้าเราอยากจะแต่งเพลงเพื่อความสุขจะแต่งยังไงก็ได้ แต่ถ้าจะทำเป็นอาชีพมันจะเป็นอีกเรื่องนึง ถ้าอยากจะเป็นมืออาชีพ เราต้องเปิดใจให้กว้างๆ การทำงานที่เป็น Commercial หรือมีโจทย์มาให้ อย่าไปนอยด์เวลาที่เขาปฏิเสธ เพราะต้องโดนอยู่แล้ว เราต้องมีอีโก้ในความพยายาม แต่ต้องลดอีโก้ในการรับฟังคนอื่น ก็จะทำให้งานได้ และอยู่ได้เรื่อยๆ สุดท้ายก็ขอให้รักเพื่อนฝูงมากๆ นะคะ (หัวเราะ)




































