การก้าวเดินออกจากจุดที่เป็นเซฟโซนของตัวเองสำหรับศิลปินที่เคยประสบความสำเร็จ มาแล้วออกจากเป็นย่างก้าวที่เสี่ยงอยู่ แต่คงไม่ใช่กับผู้ชายคนนี้ กวาง AB Normal ที่เขาขอพิสูจน์ตัวเองกับแนวทางใหม่ที่เขาชอบกับดนตรีสไตล์อิเล็กทรอนิกส์ และเพลงใหม่ในปี 2020 อย่างคืนวันจันทร์ ชื่อเพลงที่ดูน่าฉงนกับเนื้อหาที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์อันลึกลับกับผู้ชายคนนี้กวาง AB Normal
“คืนวันจันทร์” เพลงใหม่ ของกวาง AB Normal และสิ่งที่ซ่อนอยู่
กวาง : คืนวันจันทร์เป็น Symbolic ของเรื่องเกี่ยวกับความลับ ความลับของคนเราจริงๆ ก็ควรจะเก็บในที่ๆ คนนึกไม่ถึง วันจันทร์เป็นวันธรรมดา มันเป็นวันที่คนนึกไม่ถึงว่าเราอาจจะใช้เวลาสักแวบนึงไปทำอะไรได้ ซึ่งมันต่างจาก ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ที่เลิกงานแล้วเจอคนเยอะๆ จริงๆ วันอื่นก็ได้แหละ แต่ผมเลือกวันจันทร์สำหรับผม (หัวเราะ) เอาจริงๆ คอนเซ็ปต์แรกมันมาจากเรื่อง Sex Toys นะ (หัวเราะ) คือ Sex Toys เนี่ยมันเป็นสิ่งที่เรียกว่า Guilty Pleasure เป็นของที่ถ้าใครถือมันจะรู้สึกผิด แต่ก็อยากจะได้กัน มันเป็นของที่มอบความสุขให้แต่ต้องไปซ่อนมันไว้ใต้เตียง มันก็เลยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความลับนั่นเอง แต่คอนเซ็ปต์หลักจะดูฮาร์ดคอร์ไปหน่อย ก็เลยหาวิธีเล่าเรื่องให้เข้ากับทุกๆ คนได้ โดยเนื้อหาของเพลงคือคนๆ นึงแอบชอบผู้หญิง แต่มันมีเรื่องที่ไม่ราบรื่นสักเท่าไหร่ก็เลยต้องคบกันอย่างลับๆ วันที่เขาจะเจอกันได้ ก็คือวันจันทร์ ในเพลงมีท่อนนึงที่เขียนว่า “วันธรรมดาของเรากลายเป็นวันพิเศษที่ไม่มีเขา” มันเป็นเรื่องจริงของสังคมที่เราไม่กล้าพูดกัน ผมก็เลยคิดว่าเพลงนี้จะพูดแทนเรื่องราวเหล่านั้นได้ แล้วพอมาลิ้งค์กับ MV เราก็อยากให้มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักในออฟฟิศ แต่ก็ทำเนื้อเรื่องให้มันแรงขึ้นโดยให้เป็นโรคจิต ตามผู้หญิงไปเลย แต่ว่าต้องให้ดูเนียน เป็นธรรมชาติ ดูธรรมดาที่สุด เราอยากได้ Stalker ที่เราสามารถเดินสวนกับเขาโดยที่ไม่รู้ได้เลย ก็ได้น้องไมค์ ภัทรเดช มาแสดงให้ซึ่งเล่นได้แบบเนียนมาก ก็อยากให้ลองเปิดใจฟังกันครับ
ระยะห่างจากเพลงก่อนหน้านี้ถึง 1 ปี
กวาง : ในผลงานใหม่ของผมตอนนี้มันคือการทดลอง ผมจะไม่ได้ทำเพลงแบบกางสูตรว่า เฮ้ย! แบบนี้มันฮิตนะ เราต้องแบบนี้ พี่คนนี้ช่วงนี้แต่งเพลงดัง ผมจะไม่ทำแบบนั้น แล้วอีกอย่างตั้งผลงานแรกที่ผมออกมาทำเดี่ยว ก็หาคนที่เข้าใจงานตรงนี้จริงๆ ยาก ซึ่งก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ใช้เวลานาน ซึ่งเพลงนี้ก็ได้ ฮาย Paper Planes มาช่วยทำ เอาจริงๆ ฮายนี่ผมทาบทามมาตั้งแต่เพลงแรกแล้ว แต่เวลาไม่ตรงกัน ที่เลือกฮายเพราะเขาเข้าใจสิ่งที่เราต้องการ ตอนที่คุยกับ ฮาย ผมบอกว่าผมชอบเพลง แบบ Virtual Riot ซึ่งเขาเข้าใจทันที คือพอคุยกันรู้เรื่อง ก็เลยคิดว่าฮายนี่น่าจะเข้าใจแนวทางเราได้ ก็เลยได้ร่วมงานกัน ซึ่งเป็นโจทย์ที่ผมพยายามตีมานานมากๆ ก็คือทำยังไงให้ อิเล็กทรอนิกส์กับร็อคมันลงตัว คนฟังง่าย และไม่เสียสิ่งที่อยากได้ เอาง่ายๆ เลยคือเพลงต้องออกมาแบบอิเล็กทรอนิกส์แต่ถ้าจะต้องเล่นเป็นอะคูสติกก็ทำได้เลย ก็แก้กันหลายรอบ ซึ่งพอเพลงออกมาก็ได้อย่างที่ต้องการ ฟีดแบ็คก็ค่อนข้างโอเค ยอดวิวมันทะลุล้านแล้วก็ดีใจมาก ผมไม่ได้มองว่ามันสำเร็จอะไรขนาดนั้น แต่มองว่ามันคือการเปิดประตูได้แล้ว ซึ่งเราจะสามารถรับสิ่งใหม่ๆ ทำอะไรใหม่ๆ ให้คนฟังเพิ่มอีก
เทรนด์เพลง และแกนความคิด
กวาง : สิ่งที่ยากสำหรับการทำงานแนวนี้ก็คือเรื่องเทรนด์ ดนตรีแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซาวด์ มันเปลี่ยนทุกวัน แต่สำหรับผมแม้ตัวซาวด์จะเปลี่ยนแต่แนวความคิดเราไม่เปลี่ยน ถึงเราจะไม่ได้กำหนดเดดไลน์ในการทำงาน แต่มันก็ต้องมีความกระตือรือร้นในการทำให้มันสำเร็จออกมา เพราะไม่อย่างนั้นเพลงที่ทำออกมาอาจจะดูเก่าได้ มันมีความยากตรงนี้เหมือนกัน ซึ่งเราต้องคิดเผื่อไปข้างหน้าว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งในที่สุดไม่ว่าเราจะปรุงแต่งขนาดไหน เราก็ต้องไม่เปลี่ยนตัวตนไป
การดีไซน์โชว์ คือความยากระดับ 10
กวาง : ตรงนี้ยากที่สุดในการทำผลงานครั้งนี้สำหรับผม คนที่เขาไม่ได้ลองเอามาเล่นผมวาไม่รู้หรอกว่ามันยากขนาดไหน เขาอาจจะคิดแค่ว่าเอาแค่เครื่องซินธ์ฯ ไปตั้งบนเวทีแล้วเล่นไม่ใช่นะครับ ครั้งแรกสุดผมเอาเครื่อง Machine ถือขึ้นเล่นกับ AB Normal ซึ่งผมก็เถียงกับซาวด์เอ็นจิเนียร์เลยนะ เขาบอกจะเล่นได้เหรอ ก็ผมอยากเล่น พอเสียบเล่นปั๊บเล่นไม่ได้จริงๆ (หัวเราะ) ผมเล่นในสตูดิโอนี่แบบเสียงอลังการมาก แต่บนเวทีเสียงมันแปลกมาก ผมใช้เวลาปรับอยู่เป็นปี กว่าจะทำให้ลงตัว หาข้อมูลบนเน็ตก็ไม่มี ในยุคนั้นมันไม่มีความรู้ตรงนี้เลย ลองผิด ลองถูก เสียเงินกับอุปกรณ์ที่ใช้ไม่ได้ ผมว่าสายที่ผมซื้อมาน่าจะยาวเป็นกิโลแล้วมั้ง ถึงทุกวันนี้เต็ม 10 ผมยังให้ 7-8 อยู่นะ คือเล่นได้ พรีเซ็นต์ได้แต่ลงตัว 100 เปอร์เซ็นต์มั้ย มันยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องปรับ รวมถึงคนทำงานอย่างซาวด์เอ็นจิเนียร์ที่ต้องเข้าใจเรื่องนี้ ห้องซ้อมทั่วไปก็รองรับระบบเราไม่ได้ อย่างตอน G19 ผมต้องไปเช่าห้องขัดรถของเพื่อน ที่มันใหญ่หน่อย 3 วัน เพื่อที่จะแก้ปัญหาต่างๆ ซึ่งก็ได้ผลดี ในเฟสต่อไปจะเป็นเรื่องไลท์ติ้ง เพราะนอกจากเรื่องดีไซน์มันต้องมีปัญหาเรื่องขนส่งอีก ก็ต้องดูกันต่อไป
ฉีกตัวเองเพื่อเป็นตัวเอง
กวาง : เวลาผมปล่อยเพลงจะมีคอมเมนต์ทุกครั้งว่า อยากฟังเพลงแบบสมัยก่อน คืออันนี้ผมไม่ได้ว่านะครับ ผมจะเจอคอมเมนต์แบบนี้ทุกครั้งที่มีเพลงใหม่ แต่จะไม่ค่อยเจอเวลาที่เราไปโชว์ให้เขาดู ซึ่งวิธีแก้ปัญหาก็คือผมอยากจะเชิญชวนให้มาดูผมโชว์สดๆ วิธีการที่เรานำเสนอ วิธีการที่เราแก้ปัญหาให้คนฟังได้ฟังสิ่งที่ดีที่สุด อยากให้คนได้ฟังทั้งความอนาล็อกและดิจิตอล หน้าเวทีว่าถ้าเราได้มาฟังจริงๆ แล้วจะเป็นยังไง คือ ณ วันนี้ผมมองว่าผมหลุดมาจากกรอบของเพลงป็อป ผมหลุดจากการที่แบบ กวาง AB Normal ต้องทำเพลงแบบพูดไม่ค่อยเก่งอย่างเดียว ซึ่งต้องขอบคุณทั้ง genie และ Grammy ที่ให้โอกาสผมนำเสนอสิ่งใหม่ที่เราอยากจะเป็น สิ่งที่เป็นตัวตนของผมในทุกๆ ขั้นตอน
เป้าหมายของ กวาง AB Normal
กวาง : ตั้งแต่ผมออกเพลงแรกคือพูดไม่ค่อยเก่ง มา 18 ปี เป้าหมายของผมยังเหมือนเดิม ก็คืออยากให้คนจำเราได้ในการฟังแค่เพียงแวบเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการฟังเสียงร้อง หรือกีตาร์ เสียงดนตรี โทนดนตรี แนวดนตรี ยังอยากให้คนรู้จักเราในการฟังแค่แวบเดียว แล้วรู้เลยว่านี่เพลงของ กวาง AB Normal