หนึ่งในหัวหอกของวงความหวังสายร็อคเมทัลบ้านเรา หลังจากที่พวกเขาตัดสินใจย้ายมาอยู่กับ genie records ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของประเทศ คำถาม ความกังวล การติดภาพการทำงานในยุคเก่า หลายคนสงสัยในจุดยืนของร็อคหัวแข็งวงนี้ว่ายังจะมั่นคงหรือเปล่า แต่ในที่สุดเมื่อเพลง “บ้ายอ” ได้ถูกปล่อยออกมา คำถามเหล่านั้นก็หายไปสิ้นพร้อมทั้งดนตรีรูปแบบใหม่ที่ไฉไลกว่าเก่า และนี่คือเรื่องราวของวงดนตรีวงนี้ Bomb At Track
กับการตัดสินใจย้ายมาอยู่ genie
BAT : ตอนแรกเราหมดสัญญากับค่ายเก่า เราก็ตัดสินใจกันอยู่ว่าเราจะทำกันเองหรือลองไปหาค่ายเพลงอยู่อีกครั้ง ก็ช่างน้ำหนักดู “ข้น” ก็เลยได้ไปปรึกษาพี่สอง Paradox พี่สอง ก็เลยแนะนำ genie มา ซึ่งก็ถามกันว่าต้องทำอะไรยังไง มีระบบยังไง แล้วก็ในวงก็มาคุยกัน ก็เห็นตรงกัน ก็เลยได้มีโอกาสติดต่อพูดคุยกับทีมงาน genie แล้วก็รู้สึกว่า วิธีคิด แนวทางไปในทางเดียวกัน ซึ่งทีม genie เข้าใจคาแร็กเตอร์ของวงอยู่แล้ว ว่าเราเป็นวงสไตล์ไหน ก็รู้สึกว่าคลิกกันเลยตกลงทำงานร่วมกัน อย่างที่บอกครับว่าเขารู้อยู่แล้วว่าวงเราจะพูดถึงเรื่องอะไร จะสื่ออะไร ที่วงจะพูดประมาณไหน กลายเป็นว่าค่ายเห็นด้วยซะด้วยซ้ำ เขาก็อยากจะให้เราไปในที่ๆ กว้างขึ้น จะได้สื่อสารทั้งดนตรี ทั้งเนื้อหาไปถึงคนหมู่มากได้มากขึ้น ซึ่งทางค่ายก็ไม่ได้จำกัดอะไรเราเหมือนมาช่วยดูภาพรวมมากกว่า มาดูว่าเพลงนี้ทำงานยังไง ปล่อยช่องทางไหนได้บ้าง PR ยังไงเท่านั้น เลยเป็นการทำงานที่แฮปปี้มากครับ
“บ้ายอ” เพลงที่ขอด่าทอสังคมสอพลอ
BAT : เพลงนี้เป็นเหมือนการทลายกำแพงอีกขั้นของวง ทั้งเรื่องดนตรี เรื่องร้อง เรื่องซาวด์ดีไซน์ เรื่องการดำเนินการ ภาพลักษณ์ เพลงนี้เริ่มมาจากช่วง Covid ปกติเราจะทำเพลงโดยการแจมกันในห้องซ้อม แต่เพลงนี้เราเริ่มทำอัลบั้มใหม่ เราเริ่มวิธีการทำงานใหม่โดนผ่านคอมพิวเตอร์แทน เพลงบ้ายอเป็นเพลงที่เราได้เจออะไรใหม่ๆ ของวงแล้ว กลายเป็นว่าเพลงนี้ที่เป็นไอเดียล่าสุดของพวกเรา ถูกปล่อยออกมาเป็นเพลงแรก เนื้อหาของเพลงนี้คำว่าบ้ายอ มันเป็นคำที่ใครๆ ก็รู้ว่าความหมายมันคืออะไร แต่มันไม่ใช่คำที่ถูกใช้สักเท่าไหร่ มันเป็นคำที่เรารู้กันเลยโดยไม่ต้องไปขยายความหมายของคำ เราพูดถึงพฤติกรรมของคนบางคน ที่ต้องการลูกไล่ ที่แบบ ใช่ครับ! ดีครับ! แต่ที่สุดแล้วสิ่งที่ได้รับมามันเป็นสิ่งที่ไม่จริงเสมอไป เพราะอาจจะเป็นการทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งมันมีคนเหล่านี้อยู่สังคมจริงๆ
ความเปลี่ยนแปลงทางดนตรี
BAT : อย่างแรกการแร็ปเพลงนี้เปลี่ยนไป ด้วยวิธีการทำงานที่เปลี่ยนไปด้วย อย่างท่อน Verse 1 เราอัดลงไปในเพลง แล้ว “ข้น” ก็จะมาฟังว่าควรจะตัดคำไหนยังไงบ้าง เลื่อนให้มันมาเร็วขึ้นช้าลง ซึ่งถ้าเราทำแบบเดิมมันจะมีสเปซการวรรคคำที่มันดูมีความเป็นมนุษย์หน่อย แต่พอเราใช้วิธีใหม่ มันสามารถสร้างวลีแปลกๆ ได้ ซึ่งเป็นอะไรที่เราไม่เคยทำมาก่อน แต่เราไม่ได้คิดว่าจะฉีกเพราะเราโดนเปรียบเทียบกับ RATM นะครับ เราแค่มองว่าเราอยากจะพัฒนาในดนตรีเราไปให้ได้มากกว่านี้ เราไม่อยากทำอะไรแล้วเป็นแบบนั้นตลอด ก็หาทางไปเรื่อยๆ หาอะไรใหม่เพื่อความตื่นเต้นของผู้ทำและผู้ฟังด้วย ถ้าเราทำแต่เดิมๆ ทุกครั้ง มันก็ออกมาเป็นโทนเดียวกัน ก็อยากให้มีสีสัน และน่าสนใจมากขึ้น ถ้าคนทำดนตรีทำอะไรที่มันเหมือนเดิม คนฟังก็จะได้ประสบการณ์เดิมๆ แต่ดนตรีในโลกมันกว้างมาก ถ้าเราผสมแล้วทำออกมา คนฟังก็จะได้ประสบการณ์ใหม่ แล้วจะมีความรู้สึกตรงนี้มากขึ้น นี่เป็นเรื่องที่คนทำเพลงต้อง ทำให้คนฟังเช่นกัน …จริงๆ ตั้งแต่เราทำ EP แรกแล้ว เราก็ทำในสิ่งที่เราอยากทำ แล้วก็ไม่ได้ทำจนเป็น RATM ขนาดนั้นเพราะวงเราเองก็รีเช็กกันอยู่แล้ว เพียงแต่เราก็เข้าใจว่าคนที่บอกว่าเราคล้ายๆ RATM ก็แค่อยากจะ Remind เพื่อให้คนเห็นภาพได้ง่ายขึ้น พอมาเพลงนี้เราก็คิดแค่อยากจะทำสิ่งแปลกใหม่กว่าเดิม ก็พยายามหาอะไรใหม่ๆ เราพยายามพัฒนาดนตรีของเรา สำหรับเพลงนี้ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือเรื่องของไดนามิก ที่ผ่านมาสไตล์ของเราจะมีไดนามิกที่พุ่งขึ้นเรื่อยๆ แบบร้องดังๆ แล้วพอถึงจุดนึงจะพุ่งขึ้นไปอีก แต่ในเพลง “บ้ายอ” วิธีการนั้นเราเปลี่ยนบางท่อน เช่นเสียงเบส ที่เราอยากได้ย่านต่ำ ที่เบสไฟฟ้าทำให้ไม่ได้ เราก็ใช้คอมฯ ช่วย บางท่อนเช่นท่อนฮุค กลองต้องแบบใส่เพื่อให้ Mosh เลย แต่ในเพลงนี้เราก็ดีไซน์ใหม่ให้ได้สีอะไรเพิ่มขึ้นมา ส่วนซาวด์ดีไซน์กีตาร์ก็ยังมีเหมือนเดิม มันมีอะไรให้คนแปลกใจได้แน่ แล้วที่รู้สึกแน่ๆ คือซาวด์กลองที่เหมือนฮิปฮอป แทร็ป ค่อนข้างเยอะ เราก็เลยเอาสิ่งนี้มาผสมกับดนตรีร็อคของเรา เราจะได้อะไรที่ไม่ซ้ำเดิม เป็นสิ่งใหม่ๆ ที่เราทำ
MV สีสันใหม่
BAT : เพลงนี้ได้พี่ผึ้ง สาลินี มาเป็นผู้กำกับ แล้วการ์ตูนก็จะได้พี่บอม ภูมิจิต ไอเดียคือเรารู้สึกว่าสมัยก่อนเรื่องของสีของพวกเรา สีที่เห็นมันเป็นดำทึม เลือดหมู แต่ว่าเพลงนี้เราอยากจะนำเสนอสีที่มากขึ้น เลยคิดว่าการมีการ์ตูนในเพลง คงจะมันมากขึ้น หรืออย่างให้ “เต้” ห้อยหัว ที่เรามองว่าชื่อย่อของเราคือ BAT ก็ควรจะมีการห้อยหัวลงมา ซึ่งก็มันดี แต่ถ่ายหลายเทคเหมือนกัน หลังๆ ก็มึนๆ เสียศูนย์ แต่เป็นประสบการณ์ใหม่ที่สนุกมาก เสื้อผ้าเราก็เปลี่ยน วงเราก็ทัศนคติแบบพั้งก์ด้วย ก็อยากนำเสนอตรงจุดนี้ ซึ่งตรงนี้เรานำเสนอค่ายไป แล้วค่ายก็ซัพพอร์ตเราตรงนี้ วงเรามีส่วนตรงนี้เต็มที่ เราคิดรูปแบบของเราเอง ก็มีพี่เป๋ง ชานนท์ มาเป็น Art Director
การตั้งคำถามถึงการเปลี่ยนตัวตน
BAT : จริงๆ เราพูดได้เหมือนเดิมนะครับ เพราะว่าที่ผ่านมาเราก็ไม่เคยพูดชื่อ หรือพาดพิงใคร ผมรู้สึกว่าทุกอย่างยังคงเป็นตัวตนเรา พวกเราไม่กังวลนะตอนที่พวกเรามีค่ายครั้งแรก คำถามเหล่านี้ก็หายไป พอเราปล่อยบ้ายอ คำถามเหล่านี้ก็หายไปเช่นกัน แล้วอีกโอกาสนึงก็คือเต้ได้ feat. กับ พี่ๆ Potato ด้วย ในเพลง “ทำเป็นเล่น” คือพี่ปั๊บไปได้ยินเพลงแค่เรื่องเล่า แล้วพี่ปั๊ปอยากได้การแร็ปแบบนี้มาอยู่ในเพลง ก็มาคุยกับผู้จัดการของวง ซึ่งพวกเราเองก็ล่กอยู่เหมือนกัน (หัวเราะ) แต่พวกเรายินดีมากนัก ตอนพี่ปั๊บ โทรมาคุยกับเต้ คือตอบอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะตอบอะไรดี ล่กเลย (หัวเราะ) พอสุดท้ายทำงานด้วยกัน แกน่ารัก แล้วที่ผ่านมา เต้ไม่เคยได้ feat กับใครเลยเพลงแรกมาก็ Potato ก็เจ๋งดีครับ ตอนที่ทำก็พอเราได้เดโม่มาก็เขียนไปให้ทางพี่หั่งฟัง แกก็บอกว่าทุกคนชอบ ไม่ต้องแก้อะไร ก็เลยได้ไปอัดเสียง ฟิลที่ผมแร็ปจะใกล้เคียงเพลงราชา จะเป็นทางนั้นมากกว่า
ฝากผลงาน
BAT : ปีหน้าเราอาจจะมีอัลบั้มใหม่ น่าจะได้ลุยกันเต็มที่ ยังไงต้องลองติดตาม ดูครับฝากพวกเรา Bomb At Track เรามีโซเชียลด้วยอย่าง Twitter หรือ Tik Tok ด้วยเดี๋ยวให้ปุ้ยไปเต้นโชว์ (หัวเราะ)
Bomb At Track Members
เต้-วงศกร เตมายัง (นักร้องนำ)
เมษ-ภควรรษ ประเสริฐศักดิ์ (กีตาร์)
ปุ้ย-ปราชญานนท์ ยุงกลาง (กีตาร์)
ข้น-ศาสตร์ พรมุณีสุนทร (เบส)
นิล-สิรภพ เลิศชวลิต (กลอง)